ออสเตรเลียพบติดไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอน 2 คน
เชื้อโควิดกลายพันธุ์ โอไมครอน ยังคงแพร่กระจายไปยังประเทศต่างๆ โดยล่าสุดพบ 2 รายในออสเตรเลีย และพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ 1 คนในออสเตรีย
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลีย แจ้งว่า ผู้โดยสารสองคนที่เดินทางมาจากตอนใต้ของทวีปแอฟริกาถึงนครซิดนีย์เมื่อค่ำวันเสาร์ (27 พ.ย.) ติดเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ "โอไมครอน" ทั้งคู่ไม่มีอาการป่วย ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส และเข้ารับการกักตัวแล้ว ส่วนผู้โดยสารอีก 12 คนจากทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกาเช่นกันต้องเข้ารับการกักตัวที่โรงแรมนาน 14 วัน ส่วนผู้โดยสารและลูกเรือรวมเกือบ 260 คนจะต้องกักตัวด้วย
นอกจากนี้ออสเตรียเป็นชาติยุโรปล่าสุดที่พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโอไมครอน โดยผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายนี้เดินทางกลับมาจากประเทศแอฟริกาใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเจ้าหน้าที่กำลังรอผลตรวจยืนยันว่าเป็นไวรัสสายพันธุ์ โอไมครอน หรือไม่
ออสเตรียอยู่ระหว่างการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นรอบที่ 4 เพื่อยับยั้งการระบาดเมื่อวันที่ 22 พ.ย.โดยเป็นชาติแรกในยุโรปตะวันตกที่กลับมาใช้มาตรการเข้มงวดดังกล่าว
ก่อนหน้านี้พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนทั้งในแอฟริกาใต้ บอตสวานา ฮ่องกง เบลเยียม อิสราเอล อังกฤษ เยอรมนี อิตาลี และสาธารณรัฐเช็ก
ขณะที่เนเธอร์แลนด์กำหนดเริ่มบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนในวันนี้ (28 พ.ย.) โดยกำหนดให้ร้านค้า ร้านคาเฟ่ พิพิธภัณฑ์ โรงภาพยนตร์ และยิมปิดทำการตั้งแต่ 17.00 น. และซูเปอร์มาร์เก็ตปิดบริการตั้งแต่ 20.00 น.เพื่อลดการแพร่ระบาดที่ทำให้ระบบสาธารณสุขตึงตัวในขณะนี้
มาตรการนี้จะบังคับใช้นานอย่างน้อย 3 สัปดาห์ ท่ามกลางความวิตกว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่อาจแพร่เข้าสู่ประเทศ หลังพบนักเดินทางที่มาจากประเทศแอฟริกาใต้ติดโควิด-19 จำนวน 61 คน ซึ่งกำลังรอผลตรวจวิเคราะห์ว่าติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนหรือไม่