"เสรีพิศุทธ์" ชี้ สภาล่ม เหตุขาดประธานวิปรัฐบาล ขออย่าเลือกคนเลอะเทอะมาแทน

4 พฤศจิกายน 2564 ที่รัฐสภา พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงปัญหาองค์ประชุมที่เป็นเหตุให้สภาล่ม วันแรกของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ว่า ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะขาดประธานวิปรัฐบาล หลังนายวิรัช รัตนเศรษฐ ถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จากคดีทุจริตสนามฟุตซอลที่โคราช จึงถือเป็นช่วงรอยต่อ และประเดิมด้วยปัญหาด้วยดังกล่าว ส่วนตัวประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ มองว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะไปพิจารณา แต่เห็นควรจัดให้คนที่ซื่อสัตย์สุจริต ขยันทำงาน มาเป็นประธาน อย่าเอาคนเลอะเทอะมา จะได้คุยกับฝ่ายค้านรู้เรื่อง สภาล่มจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์สภาล่มอีก

พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ ยังย้ำว่า พรรคเสรีรวมไทย สนับสนุนให้ปรับแก้ไขมาตรา 112 แต่ไม่สามารถยกเลิกมาตรา 112 ได้ เพราะจำเป็นต้องมีกฎหมายเพื่อคุ้มครองสถาบัน แต่ที่กฎหมายมีปัญหาเพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พยายามยัดเยียดข้อกล่าวหาให้กับผู้ชุมนุมซึ่งหากใครไม่โดนดำเนินคดีก็จะไม่เข้าใจ และปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวกฎหมาย แต่อยู่ที่คนบังคับใช้ พร้อมเห็นควรให้ลดอัตราโทษลงและหากต้องการปรับปรุงแก้ไขมาตราดุงกล่าว ควรที่จะไปหาข้อมูลแลกเปลี่ยนเพื่อฟังความเห็นรอบด้าน ไม่ใช่เพียงแต่มาสอบถามความเห็นของแต่ละพรรคการเมืองว่าใครเห็นควรยกเลิกหรือไม่

ทั้งนี้ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(10) ของนายสำลี รักสุทธิ ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามที่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์  ได้ยื่นต่อประธานสภาไปยังศาลรัฐธรรมนูญ กรณีต้องคำพิพากษาขัอหาลักทรัพย์ของศาลจังหวัดมหาสารคามว่า เมื่อก่อนการเลือกตั้งปี 62 นายสำลี ได้กระทำความผิดในเขตจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งภายหลังได้มีการดำเนินคดีและฟ้องร้องกัน ว่านายสำลี ได้ทำการลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ ต่อมานายสำลีก็ได้ให้การรับสารภาพต่อศาล ซึ่งศาลสั่งจำคุก 3 ปี รับสารภาพเหลือโทษกึ่งหนึ่งคือ 1 ปีเศษ แต่เนื่องจากไม่เคยต้องคดีความโทษจำคุกจึงต้องรอลงอาญา และได้เข้ามาเป็นส.ส.

ทั้งนี้ จะเห็นการดำเนินการกับนายสำลี เป็นไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากกระบวนการสอบถามต่อศาล ศาลได้ให้ความร่วมมือ ในการตอบรับให้คำพิพากษา ถึงที่สุดแล้วของนายสำลี มายังตน ต่างกับกรณีของนายสิระ เจนจาคะ ที่ตนได้ขอคำพิพากษาของศาลไปเช่นแต่ศาลไม่ให้ความร่วมมือ