"วันวิชิต"เปรียบ"ผู้กองธรรมนัส"เหมือนคนดูแลของในตู้เย็น

30 ตุลาคม 2564 ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ประเมินอนาคตของพรรคพลังประชารัฐ หลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรค สวมบท "แมวเก้าชีวิต" ว่า พลังประชารัฐน่าจะไปต่อได้อีกพักหนึ่งยาวๆ เพราะหลังเปิดสภาฯ ทุกฝ่ายจะจับตากลุ่มผู้กองว่าแสดงท่าทีอย่างไร โหวตสวนหรือไม่ นำมาบรรยากาศอึมครึม หากร.อ.ธรรมนัสทำพลาด คงไปต่อไม่ได้อีก แต่ถ้าประคับประคองไปกันได้ กลุ่มต่างๆ ในพรรคก็ต้องสงบปากสงบคำ เพราะจะหามูลเหตุกำจัดร.อ.ธรรมนัสไม่ได้

ส่วนความเป็นไปได้ของการตั้งพรรคใหม่นั้น มองว่าถ้าเกิดขึ้นจริง คนที่เสียหายหนักที่สุด คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค เพราะยืนยันมาตลอดว่าต้องไปด้วยกันกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แต่ส่วนตัวยังเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ทิ้ง พล.อ.ประยุทธ์ ฉะนั้นหากนายกฯแยกตัวไปตั้งพรครคใหม่ พล.อ.ประวิตร คงเลิกเล่นการเมือง

อย่างไรก็ตาม ถ้ามอง พล.อ.ประวิตร ด้วยความเข้าใจ ว่าทำไมต้องการเก็บ ร.อ.ธรรมนัสไว้เป็นเลขาธิการพรรคต่อไป เพราะตำแหน่งนี้เหมือนเป็น "แม่บ้านของพรรค" และ พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ไว้วางใจคนอื่นๆ

"ต้องไม่ลืมว่า แม่บ้านจะเติมของให้เต็มของในตู้เย็นให้เต็มตลอด ซึ่งผู้กองธรรมนัสก็ทำแบบนั้น แต่เด็กบางคนที่อยากทำหน้าที่แม่บ้าน เอาแต่กินแต่ของในตู้เย็น กินฟรี กินเยอะ และไม่เคยหาของมาเติม ผิดกับผู้กองธรรมนัส ฉะนั้นในความคิดของ ‘บิ๊กป้อม’ คงไม่มีใครดูแลได้อบอุ่นเท่าผู้กองธรรมนัส เมื่อคำนวณและชั่งน้ำหนักแล้วจึงขอเก็บผู้กองธรรมนัสไว้ น่าจะคุ้มค่ามากกว่า" ผศ.วันวิชิต กล่าว

ผศ.วันวิชิต อธิบายต่อว่า ผลดีอีกด้านหนึ่งที่ พล.อ.ประวิตร ไม่ตามใจนายกฯ เรื่องการเปลี่ยนแปลงภายในพรรคพลังประชารัฐ ก็เพื่อป้องกันพรรคถูกยุบ ไม่ให้เป็นไปตามข้อกล่าวหา นายกฯสั่งการ ชี้นำ ครอบงำพรรคได้ ถึงขั้นเปลี่ยนแปลงเลขาธิการพรรค