วันนี้ (25 ต.ค.) น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลภัยพิบัติประเด็นเรื่อง กทม. เตรียมรับมือพายุถล่มหนักที่สุด วันที่ 26 ต.ค.–12 พ.ย. 64 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
โดยกรมอุตุนิยมวิทยา ชี้แจงว่า ในช่วงวันที่ 24–29 ต.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนน้อย ส่วนภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 24–26 ต.ค. 64 หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณ ทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนล่าง คาดว่าในช่วงวันที่ 27–29 ต.ค. 64 จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนล่าง เมื่อหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนาม อาจจะอ่อนกำลังลงก่อนจะเคลื่อนขึ้นฝั่ง และจะอ่อนกำลังลงเมื่อเคลื่อนขึ้นฝั่ง หย่อมความกดอากาศต่ำที่จะก่อตัวบริเวณทะเลจีนใต้ช่วงวันที่ 25–28 ต.ค.64 ซึ่งจากแบบจำลองบรรยากาศนี้ โอกาสเกิดขึ้นได้และจะแรงขึ้นเนื่องจากยังอยู่ในทะเลเปิด แต่จะแรงขึ้นถึงเป็นพายุหมุนเขตร้อนได้หรือไม่ ต้องติดตาม
ซึ่งอุปสรรคที่สำคัญของการก่อตัวครั้งนี้คือ มีมวลอากาศเย็นหรือความกดอากาศสูงอยู่ด้านหน้า ซึ่งแผ่ปกคลุมบ้านเรา และลมที่พัดปกคลุมจะเป็นลมทิศเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ (อากาศแห้ง) ส่วนการตั้งชื่อต้องได้ชื่อ ตามข้อตกลงของ RSMC โตเกียว ซึ่งรับผิดชอบในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกและทะเลจีนใต้ ชื่อพายุลูกใดแรงขึ้นก่อนจะได้ชื่อว่า หมาเหล่า (MALOU) ลูกต่อไปจะไล่เรียงตามลำดับ ขอให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาเป็นระยะๆ อย่าได้ตื่นตระหนกกับข่าวลือในช่วงวันที่ 23 และ 28 ต.ค. 64
อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ส่วนประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคใต้ควรระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจท่าให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยา สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://www.tmd.go.th Facebook: กรมอุตุนิยมวิทยา, Application: Thai weather หรือติดต่อสายด่วน 1182 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ ขอความร่วมมือประชาชนสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้ ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรฯ สายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง