"ทวี"แนะรัฐกระจายอำนาจท้องถิ่นแก้ปัญหาหลังลงพื้นที่ช่วยท่วมอยุธยา

 23 ตุลาคม 2564 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ พร้อมด้วย น.ส.ธนพร โสมทองแดง ส.ส.บัญชีรายชื่ออพรรคเสรีรวมไทย และนายจีระทัศน์ ไกรเดชา ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ร่วมกันมอบถุงยังชีพพร้อมให้กำลังใจประชาชน ในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลรางจรเข้ อำเภอเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับผลกระทบจากนํ้าท่วมมากว่า 2 เดือน โดยมีนายนพพร หล่อเหลี่ยม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ตำบลรางจรเข้ ให้การต้อนรับและพาลงพื้นที่พบปะประชาชนประสบอุทกภัย โดยชาวบ้านยังระบุว่าระดับน้ำสูงเกือบเท่าปี 2554

โดยพ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ปีนี้ท่วมเยอะแล้วชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ซึ่งจ.อยุธยา ปัญหาใหญ่ คือ น้ำท่วมซ้ำซากเนื่องจากเป็นที่ลุ่ม เมื่อน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยามีอัตรสูงกว่า จำเป็นต้องระบาย พอมาถึงช่วงจ.อยุธยา สภาพพื้นที่จะเป็นเหมือนคอขวดแล้วก็เส้นทางคลองต่างๆที่ระบาย น้ำจะคดเคี้ยว ทำให้น้ำเอ่อล้นไปทางชาวบ้าน

"คนอยุธยามีความรู้สึกว่าทำไมถึงน้ำท่วมซ้ำซาก วันนี้นอกจากเราจะมาดูสภาพความเป็นจริงความเดือดร้อนแล้วขอให้กำลังใจชาวบ้าน น้ำก็มาท่วม ต้องหมดเนื้อประดาตัว อยากฝากให้รัฐบาลน่าจะมีโครงการพิเศษในการเยียวยาฟื้นฟูแบบเร็วไม่ใช่รอให้น้ำลดแล้วค่อยเยียวยา" พ.ต.อ.ทวี กล่าว

สำหรับการช่วยเหลือประชาชนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความสำคัญมาก เช่น เรือที่คณะนั่งก็เป็นเรือของ อบต. รัฐบาลจากส่วนกลางจะตอบสนองปัญหาความต้องการของประชาชนล่าช้า ดังนั้น การถ่ายงบประมาณ อำนาจตัดสินใจให้ท้องถิ่น มีคำเปรียบเปรยว่าท้องถิ่น หรือ อบต.เหมือนแม่ ต้องดูแลทุกข์สุขของหมู่บ้านตำบลกับท้องที่

ขณะเดียวกัน หรือกำนันผู้ใหญ่บ้านเหมือนพ่อ ผู้ปกครองดูแลวินัยคุ้มครองคนในตำบลหมู่บ้าน ควรจะเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของรัฐบาลเรื่องการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น และก็ทราบว่าเร็วๆนี้ ก็จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นวันที่ 28 พ.ย. ท้องถิ่น ดังนั้น คิดว่าปัญหาของชาวบ้านทั้งหมด วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องถ่ายโอนอำนาจมาให้กับท้องถิ่น ไม่ใช่อำนาจอย่างเดียวถ่ายโอนเงินงบประมาณด้วย

จากนั้นคณะได้ไปเยี่ยมและรับฟังความคืบหน้า นายพงษ์ศักดิ์ เลียววงศ์วาน ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญที่ 2 โครงการผันน้ำหลากบางบาล-บางไทร จ.อยุธยา โดยมีงบประมาณผูกพันปี 2563-2566 จำนวน 9,222 ล้านบาทเศษ ที่ขุดคลองระบายน้ำความยาว 22.50 กิโลเมตร ประตูระบายน้ำ สะพานข้ามคลอง กำแพงป้องกันตลิ่ง และคันกันน้ำ ที่คลองมีขนาดมีความกว้างประมาณ 150 เมตร แต่ซื้อที่ดินเวนคืนจากชาวบ้านเป็นแนวทาง 200 เมตร

ส่วนที่เหลือเป็นถนนฝั่งคลองทั้ง 2 ด้าน จาก อ.บางบาล ไป อ.บางไทร คาดว่าจะป้องกันและบรรเทาน้ำท่วมด้วยระบบบริหารจัดการ ซึ่งกรมชลประทานคาดว่าโครงการสามารถบรรเทาอุทกภัยน้ำท่วมได้มากกว่า 1.9 ล้านไร่/ปี โครงการนี้เริ่มก่อสร้างเมื่อประมาณปี 2563 ตอนนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คืบหน้าแล้ว 20% จากรายงานต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติเขาเป็นมืออาชีพ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งให้ประชาชน จึงขอให้ประชาชนได้รับรู้และการสื่อสารสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกันเป็นสิ่งสำคัญของระบบราชการในวันนี้