เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งสหราชอาณาจักรตรัสว่า พระองค์มีความรู้สึกร่วมกับความกังวลของเกรต้า ธุนเบิร์ก และนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมคนอื่น ๆ กับกรณีที่บรรดาผู้นำโลก "ได้แต่พูด" เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และไม่ได้ดำเนินการมากพอที่จะป้องกันผลกระทบจากภัยพิบัตินี้
ก่อนการประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ หรือ COP26 องค์รัชทายาทราชบัลลังก์อังกฤษ วัย 72 พรรษา ซึ่งใช้เวลาส่วนใหญ่ในการออกมาตรัสเกี่ยวกับประเด็นสีเขียว ตรัสว่า พระองค์เข้าใจว่าทำไมนักรณรงค์จึงลงมือโดยตรง เมื่อต้องเผชิญกับนักการเมืองที่ไม่เคลื่อนไหว
“พวกเขาแค่พูด และปัญหาก็คือการลงมือปฏิบัติจริง” เจ้าฟ้าชายให้สัมภาษณ์ที่ออกอากาศเมื่อที่ 11 ตุลาคม
มุมมองของพระองค์สะท้อนความคิดเห็นจากธุนเบิร์ก และเพื่อนนักรณรงค์เยาวชนของเธอในงาน Youth4Climate ที่อิตาลีเมื่อเดือนที่แล้ว เมื่อเธอกล่าวหาผู้นำโลกว่า "30 ปี ของการบลาห์ บลาห์ บลาห์"
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ตรัสว่าพระองค์เข้าใจความสิ้นหวังของคนหนุ่มสาวและเหตุใดกลุ่มต่าง ๆ เช่น Extinction Rebellion จึงพากันไปที่ถนนเพื่อการประท้วงที่ไปก่อกวนผู้คน
“คนหนุ่มสาวเหล่านี้รู้สึกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดังนั้นแน่นอนว่าพวกเขาจะหงุดหงิด แต่นั่นมันไม่ช่วยอะไร ข้าพเจ้าไม่คิดว่า เราควรจะทำในลักษณะที่ทำให้ผู้คนแปลกแยก”
“ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงเข้าใจถึงความคับข้องใจ ความยากลำบากก็คือคุณจะจัดการกับความคับข้องใจนั้นในทางที่สร้างสรรค์มากกว่าที่จะทำลายได้อย่างไร ประเด็นก็คือ ผู้คนควรสังเกตจริง ๆ ว่าคนหนุ่มสาวจำนวนมากสิ้นหวังเพียงใด”
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 พระมารดาของพระองค์ และเจ้าชายวิลเลียม โอรสองค์โตของพระองค์ ที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอด COP26 ได้เรียกร้องให้รัฐบาลทำงานร่วมกับแกนนำภาคธุรกิจและภาคเอกชนเพื่อช่วยแก้ไขวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
เมื่อถูกถามว่ารัฐบาลอังกฤษทำเพียงพอแล้วหรือไม่ พระองค์ตอบว่า " ข้าพเจ้าแสดงความคิดเห็นไม่ได้"
อย่างไรก็ตาม พระองค์ตรัสว่าการประชุมสุดยอด COP26 ที่กลาสโกว์ ในสก็อตแลนด์ ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. - 12 พ.ย. จะเป็น "รถไฟขบวนสุดท้าย" หากไม่มีการดำเนินการ "มันจะเป็นหายนะ มันจะเป็นความวิบัติ มันเริ่มที่จะเป็นความวิบัติแล้ว”
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับสิ่งที่พระองค์ทำ ภายใต้แนวคิดสีเขียว กับความหลงใหลในรถยนต์ และผลกระทบของพระราชวังที่มีต่อก๊าซคาร์บอน เจ้าฟ้าชายตรัสว่าพระองค์ได้เปลี่ยนให้รถแอสตัน มาร์ติน อายุ 51 ปี ของพระองค์ หันมาใช้ไวน์ขาวส่วนเกินและเวย์ ที่ได้จากการทำชีส รวมถึงติดตั้งหม้อไอน้ำชีวมวล และแผงโซลาร์เซลล์ที่วังของพระองค์