"สุชาติ"โยน 14 ผู้แทนฯใต้พปชร.ตัดสินใจจะย้ายร่วมพรรคปลัดฉิ่งหรือไม่

30 กันยายน 2564 พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ และผู้ร่วมก่อตั้งพรรค เปิดเผยกับ "เนชั่นทีวี" ถึงการไปร่วมงานพรรคใหม่ ว่า  ส่วนตัวขอตอบตามตรงจะไปอยู่พรรคที่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และปัจจุบันพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นที่รับทราบของสังคมโดยทั่วไปว่ามีปัญหา เพราะฉะนั้น ที่อยู่กับพลังประชารัฐมาเป็นคนแรกๆ แล้วก็มาบริหารจัดการการเลือกตั้งที่ผ่านมาให้กับพรรคในภาคใต้ ที่ไม่เคยมีปรากฏว่าได้ ส.ส. ในภาคใต้ ยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์ แต่พรรคพลังประชารัฐก็ได้

ทั้งนี้ ขณะนั้นได้มา 13 คน แล้วไปเลือกตั้งซ่อมได้อีก 1 เป็น 14 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นผลงานของคณะทำงานที่ร่วมมือกันในการบริหารจัดการการเลือกตั้งที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นทั้ง 13 คนที่ได้ส.ส.ในภาคใต้ ด้วย 2 เหตุผล คือ 1.ความนิยมชมชอบคนในภาคใต้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ 2.ได้จากการบริหารจัดการการเลือกตั้งที่ดี เมื่อคนศรัทธา พล.อ.ประยุทธ์ และมีการบริหารจัดการที่ดีก็ย่อมบังเกิดผล

ทั้งนี้ ขณะนั้นได้มา 13 คน แล้วไปเลือกตั้งซ่อมได้อีก 1 เป็น 14 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นผลงานของคณะทำงานที่ร่วมมือกันในการบริหารจัดการการเลือกตั้งที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นทั้ง 13 คนที่ได้ส.ส.ในภาคใต้ ด้วย 2 เหตุผล คือ 1.ความนิยมชมชอบคนในภาคใต้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ 2.ได้จากการบริหารจัดการการเลือกตั้งที่ดี เมื่อคนศรัทธา พล.อ.ประยุทธ์ และมีการบริหารจัดการที่ดีก็ย่อมบังเกิดผล

"ผมกราบเรียนกับพี่น้องว่า ตอนนี้ภาคใต้กระแสของท่านนายกฯประยุทธ์ อยู่ในเกณฑ์ดี ผมยอมออกจากพปชร.พร้อมด้วยทีมงาน โดยส.ส.ทั้ง 14 คนให้เป็นสิทธิ์ของท่าน จะไม่คุยหรือถาม ให้เขาเป็นผู้ตัดสินใจเองว่า จะอยู่พรรคพลังประชารัฐหรือจะอยู่พรรคเกิดใหม่ที่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยผมคิดเรื่องนี้มาตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. 2564 ที่จะไม่อยู่ พปชร. โดยบอกท่านนายกฯ ตั้งแต่ 3 มี.ค.แล้วว่าผมไม่อยู่พปชร. ท่านก็บอกว่าหาพรรคใหม่ ซึ่งเวลาในการเลือกตั้งในฐานะที่เราเป็นนักการเมือง ปัจจัยเวลาก็มีน้อยอยู่เรื่อยๆก็เลยต้องประกาสชัดเจนว่า ทีมงานของเราซึ่งเคยเป็นทีมที่สนับสนุนพปชร.ในภาคใต้ เราจะอยู่พรรคใหม่ที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ" พ.อ.สุชาติ กล่าว

อย่างไรก็ตาม คิดว่าเดือนต.ค.น่าจะเกิดความชัดเจน ว่าทีมภาคใต้ทั้งหมด ที่เคยสนับสนุนเป็นสมาชิกของพปชร.จะขอถอนตัวออกทั้งทีม เพื่อไปอยู่พรรคใหม่ โดยตอนนี้ส่วนตัวยังไม่ได้ลาออกจากสมาชิกของพรรค จะออกพร้อมๆกันหมดทั้ง 14 จังหวัด

ส่วนจะไปร่วมงานกับพรรคปลัดฉิ่ง ของ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ถือเป็นพรรคหนึ่งที่ทีมงานได้ประสานติดต่อกันอยู่ โดยยังไม่ได้ถามลงลึกถึงชื่อพรรคที่ชัดเจน ซึ่งพรรคปลัดฉิ่ง จะเป็นชื่อพรรคอะไรก็แล้วแต่ แต่ว่าเป็นตัวเลือกอันดับ 1 เพราะว่าปลัดฉิ่งอย่างไร ก็อยู่กับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย แล้วต้องสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้น คณะตนก็จะไปที่พรรคนี้

"ต้องยอมรับในภาคใต้เรามี 13 ที่นั่งของส.ส. 13 ที่นั่งเราไปบริหารจัดการของทีมงาน พปชร.ของภาคใต้ พรรคเคยดูดีกับพวกเราไหม ที่จะให้ตำแหน่งทางการเมือง เคยคิดจะให้มีรัฐมนตีช่วยสักคนไหมในภาคใต้ ที่ผมเองเป็นประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ ไม่จำเป็นต้องเป็น พ.อ.สุชาติ หรอกเป็นใครก็ได้ที่เหมาะสมแต่พรรคเคยคิดไหม ไม่เคยคิดเลยซึ่งนี่เป็นส่วนหนึ่งที่ผมน้อยใจว่าภาคใต้ ควรจะมีรัฐมนตรีแต่ก็ไม่ได้กับเขา และไม่ใช่ว่าพอไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแล้วจะเกิดความน้อยใจจะลาออกจากพรรคไม่ใช่ มันมีเหตุผลอื่นๆอักหลายปัจจัยมากกว่านั้น" พ.อ.สุชาติ กล่าว

อดีตประธานยุทธศาสตร์ กล่าวด้วยว่า ต้องยอมรับในพลังประชารัฐ ก็ผ่านการเมืองมามาก ตนก็ลาออกจากราชการตั้งแต่ปี 35 เป็น ส.ส.อยู่ในสภาฯมา เพราะฉะนั้น อยากไปทำการเมืองที่มันดูดี เมื่อเข้าไปอยู่ในพรรคการเมืองที่อยู่แล้ว ไม่มีน้ำหนักพอในการนำเสนอเพื่อประชาชน ก็ไม่ควรอยู่ต้องเดินทางต่อไป ไปหาพรรคที่คิดว่าจะทำงาน เพื่อเกิดประโยชน์ต่อประชาชน