จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “อ็อฟ เจริญทรัพย์” โพสต์คลิปนาทีช่วยชีวิตเด็กหญิงวัย 6 ขวบที่พลัดตกลงไปในหลุมลึก 3 เมตรภายในน้ำตกแก่งใหญ่ ตำบลนาคำ อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 26 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา
โดยคลิปบีบหัวใจดังกล่าว เป็นช่วงที่หญิงสาวรายหนึ่งทำการผายปอดและกดบริเวณระหว่างท้องและลิ้นปี่ของเด็กจนกลับมามีสติอีกครั้ง!!
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง นางสาวนิตยา ขันทอง อายุ 32 ปี หญิงสาวในคลิปเล่าว่า
ช่วงบ่ายวันที่ 26 ก.ย. ตนเองและครอบครัวได้ไปเที่ยวน้ำตกแก่งใหญ่ซึ่งน้ำตกกำลังสวยน่าเล่น ระหว่างนั้นได้ยินเสียงคนร้องจึงได้หันไปดูพบผู้ชายอุ้มเด็กขึ้นมาจากหลุมหรือโบกในภาษาอีสานมาพาดไหล่ ตอนนั้นตนคาดว่าเด็กจมน้ำแต่การเอาเด็กพาดบ่าเพื่อให้เอาน้ำออกเป็นการช่วยที่ผิดวิธี ตนเองและพี่ชายเห็นเด็กหน้าซีด ปากซีด ไม่มีสติจึงได้เข้าไปช่วยด้วยการปั้มหัวใจและผายปอด ประมาณ 5 นาทีเด็กก็ลืมตากลับมามีสติพลเมืองดีช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลศรีเมืองใหม่
นางสาวนิตยา ยังเปิดใจอีกว่า ตนเป็นแม่บ้านดูแลครอบครัวธรรมดา รู้สึกดีใจและอิ่มใจที่สุดในชีวิตที่สามารถช่วยเด็กกลับมามีสติอีกครั้ง เพราะในชีวิตก็ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน ยอมรับว่าตื่นเต้นลืมที่จะกลัวโควิดเลย ส่วนวิธีการช่วยชีวิตนั้นตนเคยเรียนมาสมัย ม.ปลาย วิชาสุขศึกษาและเห็นจากยูทูป จำได้ว่าการช่วยคนจมน้ำต้องช่วยด้วยการผายปอดการพาดบ่าไม่ได้ช่วยอะไรยิ่งจะทำให้เด็กบาดเจ็บเพิ่มขึ้น
ด้านนางสาวแพรว (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี มารดาของน้องปลา (นามสมมุติ) อายุ 6 ขวบเด็กหญิงที่อยู่ในคลิปให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า
ตนเองและครอบครัวรวม 10 คน ได้พากันมาเที่ยวน้ำตกแก่งใหญ่ ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงที่ขนของลงมาเตรียมเล่นน้ำ น้องปลาได้เปลี่ยนชุดแล้วลงไปเล่นตอนไหนไม่ทราบ พอเดินหาก็พบน้องจมอยู่ในหลุมลึกประมาณ 3 เมตร ตนจึงได้ร้องบอกให้ลูกชาย อายุ 13 ปี ลงไปช่วยน้องปลาขึ้นมาในสภาพที่หมดสติ
คุณพ่อของน้องพยายามเอาน้องพาดบ่าเพื่อเอาน้ำออกจากปอด แต่ก็มีพลเมืองดีในคลิปเข้ามาช่วยปั้มหัวใจจนฟื้น พลเมืองดีอีกคนที่เห็นเหตุการณ์ก็พาขึ้นรถโฟวิลล์ไปส่งโรงพยาบาลศรีเมืองใหม่ เบื้องต้นแพทย์ได้ช่วยเหลือน้องปลาจนปลอดภัยแล้ว จึงได้ส่งตัวมาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เพื่อให้แพทย์เฉพาะทางตรวจดูอาการอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้ นางสาวแพรว ฝากขอบคุณนางสาวนิตยา และพลเมืองดีทุกคนที่ช่วยเหลือลูกสาวในครั้งนี้
ภาพข่าวโดย: เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงค์