แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาตอบโต้เมื่อวันจันทร์ ( 13 กันยายน ) ต่อต้านเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากพรรครีพับลิกันเกี่ยวกับการจัดการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน โดยบอกว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้รับมรดกเป็นข้อตกลงกับกลุ่มตาลีบันเพื่อยุติสงคราม แต่ไม่ได้รับแผนที่จะดำเนินการตามนั้น
ในการเข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเป็นเวลา 5 ชั่วโมง ซึ่งบ่อยครั้งเป็นการปะทะคารมกับสมาชิกสภานิติบัญญัติ รัฐมนตรีพยายามที่จะตอบโต้เสียงบ่นจากฝ่ายนิติบัญญัติของพรรครีพับลิกันที่โกรธแค้นเกี่ยวกับการตอบสนองของฝ่ายรัฐบาลต่อการล่มสลายอย่างรวดเร็วของรัฐบาลอัฟกานิ
สถาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศในการอพยพชาวอเมริกันและคนอื่น ๆ ออกจากอัฟกานิสถาน
งานนี้ รัฐมนตรียังคงสะท้อนท่าทีของทำเนียบขาว ที่กล่าวโทษรัฐบาลของประธานา
ธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สำหรับสถานการณ์ที่ประธานาธิบดีไบเดนได้รับการสืบทอดมา ขณะที่พรรครีพับลิกันเรียกการถอนทหารว่าเป็น “หายนะ” และ “ความอับอายขายหน้า”
แต่ในขณะที่สมาชิกพรรคเดโมแครตบางคนยอมรับว่าการดำเนินการของรัฐบาล สามารถทำให้ดีกว่านั้น ได้ แต่หลายคนก็ใช้คำถามของพวกเขาเพื่อวิจารณ์อดีตประ
ธานาธิบดีทรัมป์
ในช่วงวันแรกของการให้การต่อรัฐสภาเป็นเวลา 2 วัน บลิงเคน พยายามเพิกเฉยอย่างสงบต่อข้อกล่าวหาเรื่องความไม่พร้อม โดยบอกว่าไบเดนได้รับมรดกเป็นข้อตกลงสันติ ภาพระหว่างสหรัฐฯ กับตาลีบัน จากผู้นำคนก่อน รวมถึงโครงการที่อ่อนไหว อย่างการออกวีซ่าให้กับชาวอัฟกันที่เคยทำงานให้ รัฐบาลสหรัฐ
บลิงเคน ซึ่งเคยทำนายต่อสาธารณะเมื่อเดือนมิถุนายนว่ากลุ่มตาลีบันจะไม่กลับมา
มีอำนาจในเร็ววัน พยายามตอบโต้การวิพากษ์วิจารณ์ต่อการคาดการณ์ของเขา โดยบอกว่าไม่มีใครในรัฐบาลสหรัฐฯ คาดว่ารัฐบาลอัฟกานิสถานจะล้มลงอย่างรวดเร็ว
เช่นนี้
ในขณะที่พรรครีพับลิกัน ก็เรียกร้องขอคำตอบว่าเหตุใดพลเมืองอเมริกันจึงถูกทิ้งไว้ข้างหลังในวันที่วุ่นวายและหลายสัปดาห์ก่อนที่กองทัพจะถอนทหารเสร็จสิ้นในวันที่
30 ส.ค. และสมาชิก 2 คนออกมาเรียกร้องให้เขาลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ
บลิงเคนบอกว่าในขณะที่รัฐบาลทรัมป์เจรจากับกลุ่มตาลีบันเรื่องการถอนทหาร รัฐบาลไบเดนไม่สามารถเจรจาได้ เพราะกลุ่มตาลีบันข่มขู่ที่จะสังหารชาวอเมริกัน