svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เรือนจำสงขลา และสุพรรณบุรีพ้นจากระบาดแล้ว

09 กันยายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรมราชทัณฑ์ รายงาน สถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน เรือนจำกลางสงขลา และเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรีพ้นจากการระบาดแล้ว ขณะที่ไม่พบเรือนจำระบาดเพิ่มต่อเนื่องเป็นวันที่ 4

9 กันยายน 2564 เวลา 12.00 น. นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 8 กันยายน 2564 เวลา 16.00 นาฬิกา) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 631 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 600 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 31 ราย) รักษาหายเพิ่ม 153 ราย ไม่มีรายงานผู้ต้องขังเสียชีวิตในวันนี้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 4,971 ราย (กลุ่มสีเขียว 85.3% สีเหลือง 13.9% และสีแดง 0.8%) เป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร 470 ราย ปริมณฑล 372 ราย และต่างจังหวัด 4,129 ราย 

 

นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ มีเรือนจำที่พ้นการระบาดเพิ่ม 2 แห่ง คือ เรือนจำกลางสงขลา และเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี โดยไม่มีเรือนจำระบาดใหม่เป็นวันที่ 4 ส่งผลให้มีเรือนจำสีแดงลดลงอยู่ที่ 37 แห่ง เรือนจำสีขาว 105 แห่ง โดยมีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 54,699 ราย หรือ 89.2% ของผู้ติดเชื้อสะสม 61,343 ราย เสียชีวิตสะสม 130 ราย คิดเป็นอัตรา 0.2% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด

นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ในระยะนี้ถือว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากการพบเรือนจำแพร่ระบาดที่ค่อนข้างชะลอตัว ขณะที่เรือนจำที่พ้นจากการระบาดมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยภายในเดือนนี้จะสิ้นสุดการระบาดได้อีกไม่น้อยกว่า 20 แห่ง แม้จะพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นกลุ่มก้อนอยู่บ้าง แต่เป็นการตรวจพบในเรือนจำสีแดงระบาดใหม่ประมาณ 2-3 แห่ง ที่เร่งคัดกรองผู้ติดเชื้อให้ได้รับยา และการรักษาอย่างทันท่วงที ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงของโรค รวมถึงการตรวจพบผู้ติดเชื้อในห้องแยกกักโรค ซึ่งเป็นผู้ต้องขังรับใหม่จากภายนอกที่ยังคงสามารถป้องกันเชื้อก่อนเข้าเรือนจำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เรือนจำสงขลา และสุพรรณบุรีพ้นจากระบาดแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการเพื่อป้องกันและควบคุมการระบาดของโรค ยังต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัดต่อไป ทั้งการให้ยาและการรักษาผู้ติดเชื้อที่รวดเร็ว รวมถึงการรักษามาตรการป้องกันเชื้อ 
ในเรือนจำที่ยังไม่เคยพบการระบาด หรือที่พ้นจากการระบาดแล้ว โดยต้องเข้าใจหลักการระบาดของโรคและพัฒนาองค์ความรู้อยู่เสมอ เพื่อให้สามารถดำเนินการป้องกันปัญหาได้อย่างถูกต้องและตรงจุด 

logoline