ผลสำรวจของหนังสือพิมพ์ โยมิอูริ ที่เผยแพร่วันนี้ระบุว่า ผู้ตอบคำถาม 23% บอกว่า นาย ทาโร โคโนะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมและอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ เป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดที่จะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แทนนายโยชิฮิเดะ ซูงะ ที่เตรียมลาออกจากตำแหน่งผู้นำรัฐบาลในช่วงสิ้นเดือนนี้ หลังจากประกาศจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตยหรือแอลดีพีในการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในวันที่ 29 ก.ย.
ส่วนนายชิเงรุ อิชิบะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมอยู่ในอันดับ 2 ได้คะแนนนิยม 21% และนายฟูมิโอะ คิชิดะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งเป็นคนเดียวที่ประกาศตัวอย่างเป็นทางการลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคในขณะนี้ มีคะแนนนิยมเพียง 12%
นอกจากนี้ผลสำรวจของสำนักข่าวเกียวโด ที่รายงานเมื่อวันอาทิตย์ระบุว่า โคโนะ วัย 58 ปี รัฐมนตรีที่รับผิดชอบโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้เสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุด 31.9% ทิ้งห่างนายอิชิบะ ที่ได้ 26.6% และคิชิดะ 18
โคโนะ ซึ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์และพูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว ได้รับความชื่นชอบจากผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งวัยหนุ่มสาวจากการเข้าถึงฐานเสียงกลุ่มนี้ผ่านทวิตเตอร์ทั้งภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ และมีผู้ติดตามในทวิตเตอร์ภาษาญี่ปุ่นมากถึง 2.3 ล้านคน แต่เขาไม่ได้รับเสียงสนับสนุนภายในพรรคเท่าที่ควร โดยแกนนำระดับอาวุโส มองว่า เขาอายุน้อยเกินไป รวมทั้งพูดจาโผงผางและเป็นพวกนอกคอก
ขณะที่สื่อรายงานว่า โคโนะได้เสียงสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรีซูงะ ส่วนซานาเอะ ทาคาอิจิ อดีตรัฐมนตรีกิจการภายใน ได้รับเสียงสนับสนุนจากอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ และหากเธอได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคแอลดีพีคนใหม่จริง จะทำให้เธอกลายเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น แต่จากผลสำรวจของหนังสือพิมพ์โยมิอูริ พบว่า เธอมีคะแนนนิยมรั้งท้ายเพียง 3%