ประธานาธิบดีไบเดนระบุในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ว่า เหล่าผู้บัญชาการทหารแจ้งว่า การโจมตีมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดขึ้นใน 24-36 ชม.ข้างหน้า และเขาได้สั่งให้ใช้ทุกวิธีทางเท่าที่ทำได้เพื่อให้ความสำคัญอันดับแรกกับการคุ้มครองทหารอเมริกัน
คำเตือนนี้มีขึ้นหลังจากมือระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่ม ไอซิส-เค (ISIS-K) ที่เป็นสาขาของไอเอสในอัฟกานิสถาน จุดระเบิดโจมตีที่ประตูสนามบินฮามิด คาไซในกรุงคาบูลทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 175 ราย ซึ่งรวมถึงทหารสหรัฐฯ 13 นายเมื่อวันพฤหัสบดี
และสหรัฐฯใช้โดรนติดอาวุธโจมตีฐานที่มั่นของไอซิส-เค ในจังหวัดนันกาฮาร์ทางตะวันออกของอัฟกานิสถานและมีชายแดนติดกับปากีสถานเมื่อวันศุกร์ กระทรวงกลาโหมเปิดเผยว่า สามารถสังหารแกนนำระดับสูง 2 คนและอีกคนได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่มีพลเรือนได้รับบาดเจ็บ
แถลงการณ์ของไบเดนล่าสุดเตือนด้วยว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย และสหรัฐฯจะยังคงตามล่าคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดและพวกเขาจะต้องชดใช้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น
แต่โฆษกตาลีบันประณามการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ และบอกว่า ควรแจ้งให้ทราบก่อน เพราะชัดเจนว่าเป็นการโจมตีบนดินแดนของชาวอัฟกัน รวมทั้งบอกด้วยว่ามีผู้หญิง 2 คนและเด็ก 1 คนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีดังกล่าวด้วย
ขณะเดียวกันโฆษกตาลีบัน เปิดเผยว่า สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยบางคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดสนามบิน และตาลีบันจะเข้าควบคุมสนามบินในเร็วๆนี้หลังทหารสหรัฐฯถอนกำลังออกไป รวมทั้งจะเตรียมประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ทำเนียบขาวยอมรับว่า ปฏิบัติการอพยพคนออกจากสนามบินคาบูลอยู่ในช่วงอันตรายที่สุดก่อนถึงกำหนดเส้นตายการถอนทหารในวันที่ 31 ส.ค. หลังจากในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐฯและชาติพันธมิตรอพยพคนออกจากอัฟกานิสถานได้เกือบ 111,900 คนแล้ว และเนื่องจากมีความเสี่ยงเกิดการโจมตีสนามบินครั้งใหม่ สถานทูตสหรัฐฯในกรุงคาบูลเตือนให้ชาวอเมริกันหลีกเลี่ยงไปสนามบิน