24 สิงหาคม 2564 จังหวัดพัทลุงเป็น 1 ใน 10 จังหวัดพื้นที่นำร่องเข้าร่วมโครงการปลูกพืชกระท่อมโดยไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งมีทั้งหมด 135 หมู่บ้านส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้ เช่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ พังงา ตรังและพัทลุง
นายประเสริฐ มีเอียด ผญบ.ม.3 ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง เปิดเผยว่า ดีใจที่มีการปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากการเป็นยาเสพติดเพราะวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านจะปลูกไว้เพื่อเป็นสมุนไพรเคี้ยวกินเวลาออกไปทำงานหนัก รวมถึงมีสรรพคุณช่วยแก้อาการปวดท้อง แก้เบาหวานต่างๆด้วย โดยที่ผ่านมาที่ตำบลลำสินธุ์ซึ่งมีอยู่ 9 หมู่บ้านจะได้รับการผ่อนผันในฐานะชุมชนนำร่องปลูกกระท่อม ซึ่งจะปลูกมากที่สุดในหมู่ที่ 3 ซึ่งมีประมาณ 900 ต้น และทุกต้นมีคิวอาร์โค้ดหรือทะเบียนควบคุมไว้ว่าใครเป็นผู้ครอบครอง
ล่าสุดได้มีผู้ประกอบการเจ้าของแบรนด์”ชาพะยอม”ติดต่อขอซื้อใบกระท่อมจากชุมชนเพื่อนำไปแปรรูปเป็นชาใบกระท่อมในเชิงพาณิชย์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลอง ซึ่งก็ทำให้ชาวบ้านดีใจว่าการปลดล็อกดังกล่าวจะช่วยสร้างโอกาสให้พืชพื้นบ้าน พืชเสพติดให้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ได้
สำหรับคนในพื้นที่ภาคใต้นิยมเคี้ยวใบกระท่อมซึ่งเป็นวิถีดั้งเดิมเพื่อให้ทำงานได้ทนทาน และใบกระท่อมสำหรับหมอพื้นบ้านแล้วมองว่านี่คือพืชสมุนไพรที่แก้ปวดท้องเสีย ไอ ปวดฟัน ปวดเมื่อยตามร่างกาย และทำให้นอนหลับ และแน่นอนว่าผลการวิจัยพบใบกระท่อมมีสรรพคุณทางยาหลายชนิดที่สามารถบำบัดรักษาโรคต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูงและใช้ทดแทนมอร์ฟีนแก้ปวดได้ด้วย