ชาวจีน, ชาวญี่ปุ่นหรือแม้กระทั่งอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังหลายคน ก็อดไม่ได้ที่จะเหมายาดมกลับไปคนละหลายแผง เพราะราคาปลีกถูกมากสำหรับพวกเขา หลอดละ 20 กว่าบาท ทั้งยังเป็นแบบทูเวย์ทั้งดมและทา
ตอนนี้ในญี่ปุ่นเริ่มมีการนำยาดมไทยไปขายแล้ว จะรู้กันในชื่อ "Nose mint" และวางอย่างโดดเด่นในศูนย์การค้า "ดองกิโฮเต้" (Don Quijote) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า "DON DON DONKI" แต่ราคาแรงกว่าที่ไทยมาก ตกหลอดละ 413 เยน (100 บาท) บ่งชี้ว่าคนญี่ปุ่นชื่นชอบยาดมกันจริง ทั้งยังบอกสรรพคุณด้วยว่ามีประโยชน์กับทุกสถานการณ์ ทั้งในโรงเรียน ที่ทำงาน รถยนต์ และที่บ้าน แถมระบุด้วยว่าฮิตไปทั่วโลกเพราะสามารถใช้ได้หลายวิธี ไม่จำกัดเพศหรืออายุ!
คนญี่ปุ่นแยกการใช้ยาดมไว้แบบนี้...
- เมื่อเรียนหนัก
- เมื่อคุณต้องการเปลี่ยนอารมณ์ในที่ทำงาน
- เมื่อคุณต้องการแรงบันดาลใจ
- บรรเทาความอึดอันที่ต้องสวมหน้ากากอนามัยและหายใจลำบาก
- การขับรถ
หลายคนอาจสงสัยว่ายาดมทำจากอะไร เหตุใดจึงเป็นยาใจของใครหลาย ๆ คน ส่วนประกอบหลักของยาดมคือ เมนทอล การบูร พิมเสน น้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากสมุนไพรอื่น ๆ เช่น สะระแหน่ กานพลูหรือยูคาลิปตัส ที่ช่วยให้สดชื่น โล่งโพรงจมูก บรรเทาอาการหวัดคัดจมูก แก้อาการวิงเวียนศีรษะ ในส่วนที่เป็นน้ำบรรเทาอาการเคล็ดขัดยอก หรือ อาการบวมคันจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้
แม้จะมีประโยชน์ แต่แพทย์ก็เตือนว่าถ้าดมบ่อยเกินไปก็ไม่ดี ผลเสียก็มีหลายอย่าง เช่น
- ในส่วนประกอบของยาดมนั้น มีสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่ออวัยวะในระบบทางเดินหายใจ ทำให้จมูกแห้ง โพรงจมูกอักเสบและปอดอักเสบ
- ส่วนประกอบของยาดม อาจมีสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบประสาท เนื่องจากมีฤทธิ์ที่สามารถกระตุ้นประสาท ส่งผลให้เกิดการเสพติดชนิดที่ไม่รุนแรงได้
- การดมยาดมมาอาจทำให้เสียบุคลิกภาพ
- การใช้ยาดมร่วมกับผู้อื่น มีความเสี่ยงในการติดเชื้อบริเวณจมูก โดยเฉพาะยาดมที่มีลักษณะผลิตภัณฑ์แบบหลอด