โอ เซ-ฮุน นายกเทศมนตรีกรุงโซล แถลงในวันพุธ (31 พฤษภาคม 2566) โดยกล่าวขอโทษที่สร้างความสับสนแก่ประชาชนจากการส่งข้อความแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินในช่วงเช้าขอให้ประชาชนเตรียมตัวอพยพ เพียงไม่กี่นาทีหลังเกาหลีเหนือปล่อยจรวดส่งดาวเทียมสอดแนม และชี้แจงว่า ข้อความแจ้งเตือนฉุกเฉินอาจเป็นการตอบสนองต่อสถานการณ์ที่มากเกินไปของเจ้าหน้าที่ระดับคณะทำงาน แต่ไม่ใช่ความผิดพลาด และยืนยันว่า หลักการ คือ ไม่อาจประนีประนอมเรื่องความปลอดภัยได้
ประชาชนในกรุงโซลได้รับแจ้งข้อความจากทางการกรุงโซลในวลา 6.32 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยข้อความไม่ได้ระบุเหตุผล และไม่ได้แนะนำให้อพยพไปที่ใด แต่กระทรวง มหาดไทยและความปลอดภัยส่งข้อความในเวลา 7.03 น. ว่า ข้อความที่ส่งโดยกรุงโซลเป็นความผิดพลาด และในเวลา 7.25 น. กรุงโซลส่งข้อความใหม่บอกให้ประชาชนใช้ชีวิตได้ตามปกติ เนื่องจากยกเลิกคำเตือนแล้ว อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความหวาดกลัวและความสับสนแก่ประชาชนในโซลนานเกือบ 40 นาที ส่วนคำแจ้งเตือนบนเกาะแบงยองถูกยกเลิกในเวลา 8.01 น.
กระทรวงมหาดไทยและทางการกรุงโซลกล่าวโทษอีกฝ่ายเรื่องการส่งข้อความแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินไม่สอดคล้องกัน โดยกระทรวงมหาดไทยชี้แจงว่า แจ้งเตือนประชาชนบนเกาะแบงยอง และเกาะแทชอง ใกล้เส้นแบ่งเขตสองเกาหลีในทะเลตะวันตกให้อพยพ แต่ไม่ครอบคลุมถึงกรุงโซล ขณะที่กรุงโซลอ้างว่าได้รับคำแนะนำจากกระทรวงมหาดไทยให้ส่งข้อความแจ้งเตือน และสุดท้ายนายกเทศมนตรีกรุงโซลออกมาขอโทษว่า การแจ้งเตือนเป็นการตอบสนองที่มากเกินไป
ความแตกตื่นเกิดขึ้นหลังจากเกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียมสอดแนมทางทหารดวงแรกที่มีชื่อว่า “มัลลิกย็อง-1” ด้วยจรวดรุ่นใหม่ “ช็อลลิมา-1” จากฐานปล่อยดาวเทียมโซแฮ ในเขตโซลซาน ของจังหวัดพย็องอันเหนือ แต่ประสบความล้มเหลว โดยจรวดตกลงสู่ทะเลตะวันตก หลังสูญเสียแรงขับ สืบเนื่องจากความผิดปกติของเครื่องยนต์ของจรวดท่อนที่ 2 หลังแยกตัวจากจรวดท่อนแรก ด้านกองทัพเกาหลีใต้เผยแพร่วัตถุที่เก็บกู้ได้และเชื่อว่าเป็นชิ้นส่วนของจรวดขนส่งดาวเทียมของเกาหลีเหนือ และเปิดเผยว่า ชิ้นส่วนดังกล่าวตกลงในน่านน้ำห่างจากเกาะโอชองทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไปทางทิศตะวันตกราว 200 กม. หลังจรวดเคลื่อนที่ข้ามเกาะแบงยอง
ความพยายามปล่อยดาวเทียมของเกาหลีเหนือครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 แล้วนับจากเริ่มขึ้นในปี 2541 แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เป็นการปล่อยดาวเทียมสอดแนม