รัฐมนตรีเกษตรของบราซิลลงนามในประกาศภาวะฉุกเฉินโรคระบาดสัตว์เป็นเวลา 180 วัน สืบเนื่องจากพบนกป่าติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก ไวรัส H5N1 อย่างน้อย 8 ตัว ซึ่ง 1 ตัวพบในรัฐริโอ เด จาเนโร และอีก 7 ตัวพบในรัฐเอสปิริโต ซานโต
ภายใต้แนวทางขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ การพบสัตว์ติดเชื้อไวรัส H5N1 ในนกป่า ยังไม่จำเป็นต้องมีมาตรการห้ามการค้า แต่หากพบการติดเชื้อในฟาร์มสัตว์ปีก จะต้องกำจัดสัตว์ปีกทั้งหมด และอาจเผชิญมาตรการห้ามนำเข้าสินค้าจากประเทศต่าง ๆ
กระทรวงเกษตรบราซิล แถลงในวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ว่า ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินเพื่อประสานงาน วางแผน และประเมินมาตรการระดับชาติเพื่อรับมือกับไข้หวัดนก
บราซิลเป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่รายใหญ่ที่สุดของโลกด้วยมูลค่าการจำหน่าย 9,700 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว และแหล่งผลิตเนื้อไก่ที่สำคัญอยู่ในภาคใต้ แต่จุดที่พบนกป่าติดเชื้อไข้หวัดนกอยู่ห่างจากพื้นที่ดังกล่าวอย่างมาก
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขบราซิล เปิดเผยว่า พบเคสผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดนกในรัฐเอสปิริโต ซานโต แต่ผลตรวจออกมาเป็นลบ
ในปีที่แล้วบราซิลพบเคสการติดเชื้อไข้หวัดนกในคน 5 ราย และข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ที่ผ่านมาผู้ป่วยไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 มีโอกาสเสียชีวิต 53%
และเมื่อเดือนเม.ย. WHO รายงานว่า หญิงวัย 56 ปีในจีนเสียชีวิตหลังติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H3N8 ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกจากสายพันธุ์นี้ ไวรัส H3N8 เริ่มระบาดตั้งแต่ปี 2545 และถือเป็นสายพันธุ์ที่อันตรายทั้งต่อสัตว์ปีกและนกป่าน้อยกว่าสายพันธุ์ H5N1