เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงกรุงปักกิ่ง แถลงในวันพุธ (19 เม.ย.) ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากไฟไหม้โรงพยาบาลฉางเฟิงในกรุงปักกิ่งเมื่อเวลา 12.57 น. ของวันอังคาร (18 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น เพิ่มขึ้นจาก 21 ราย เป็น 29 ราย โดย 26 ราย เป็นผู้ป่วยของโรงพยาบาล ส่วนที่เหลือเป็นสมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ และพยาบาล ผู้ป่วยเคราะห์ร้ายมีอายุเฉลี่ย 71.2 ปี นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บอีก 39 ราย กำลังรักษาตัว ซึ่ง 3 ราย มีอาการขั้นวิกฤต และ 18 ราย มีอาการรุนแรง
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า จากผลการสอบสวนเบื้องต้นของเพลิงไหม้ครั้งนี้ที่รุนแรงที่สุดในช่วงหลายปีนี้ พบว่า เกิดประกายไฟระหว่างคนงานกำลังปรับปรุงอาคาร ทำให้สีที่เก็บไว้ในที่เกิดเหตุติดไฟลุกไหม้ ประชาชน 12 คน ซึ่งรวมถึง ผู้อำนวยการโรงพยาบาล และผู้รับผิดชอบการปรับปรุงในโรงพยาบาลถูกควบคุมตัวเพื่อสอบปากคำแล้ว
ขณะที่ทางโรงพยาบาลระงับการบริการรักษาแก่ผู้ป่วยนอก และปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้เข้า ยกเว้นผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาล ส่วนทางการกรุงปักกิ่งประกาศจะตรวจสอบความปลอดภัยของโรงพยาบาล ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ อาคารสูง และพื้นที่ชั้นใต้ดิน เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอย
คลิปเหตุการณ์พลิงไหม้ถูกแชร์ในโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง สร้างความโกรธแค้นแก่ครอบครัวของผู้ป่วย และความสลดใจแก่ประชาชนในวงกว้าง โดยในคลิปจะเห็นควันดำพวยพุ่งออกจากห้องต่าง ๆ และผู้ป่วยบางคนใช้ผ้าปูที่นอนไต่ลงมาจากหน้าต่าง แล้ววิ่งไปบนดาดฟ้าของอาคารใกล้เคียง อีกหลายคนออกไปยืนตรงเครื่องปรับอากาศนอกหน้าต่าง ท่ามกลางกลุ่มควันสีดำ และมีเสียงหวีดร้อง และเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ ขณะที่มีบางคนกระโดดลงจากตึกด้วย
นอกจากนี้รายงานข่าว บอกว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และบางคนได้รับการผ่าตัดแขนขา ทำให้เคลื่อนไหวไม่สะดวก
เจ้าหน้าที่สามารถดับไฟไหมได้ในเวลา 1.33 น. ตามเวลาท้องถิ่น และการกู้ภัยยังคงดำเนินต่อจนถึง 15.30 น. สื่อท้องถิ่น รายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถอพยพคนเกือบ 70 คนออกจากอาคาร
ขณะที่ญาติของผู้ป่วยบางคน บอกว่า หลังไฟไหม้ผ่านพ้นไป 7 หรือ 8 ชม. ทางโรงพยาบาลก็ยังไม่อาจระบุได้ว่า ผู้ป่วยรายใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และหลายคนพยายามตามหาสมาชิกในครอบครัวจนถึงดึก