โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี้ จูเนียร์ นักกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้กับ จิมมี่ ดอร์ นักแสดงเดี่ยวไมโครโฟน และเป็นนักวิจารณ์การเมืองในสหรัฐ โดยบอกว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ได้งบจาก อดีตรองประธานาธิบดี ดิ๊ก เชนีย์ จำนวน 2,200 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 7 หมื่น 5 พันล้านบาท แล้วพวกเขาก็นำงบก้อนนี้ ส่งผ่านไปยังสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติ ผ่านไปยัง นายแพทย์ เฟาซี ซึ่งก็นำงบไปใช้ในการพัฒนาอาวุธชีวภาพ มาตั้งแต่ปี 2002
โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี้ จูเนียร์ นักกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม และเป็นนักแต่งหนังสือ ซึ่งมีพ่อเป็นวุฒิสมาชิกสหรัฐ ยังเผยว่า ในปี 2014 ได้เกิดเหตุมีเชื้อไวรัส สามสายพันธุ์ หลุดออกจากแล็บต่างๆ ในสหรัฐ จนเรื่องนี้รู้ ถึงหูของสภาคองเกรส ทำให้พวกเขาโกรธมาก จากนั้นก็มีนักวิทยาศาสตร์ ชั้นนำ 300 คน ยื่นหนังสือต่อ "โอบามา" ประธานาธิบดีสหรัฐในสมัยนั้น ต้องการให้สั่งปิดแล็บพัฒนาอาวุธชีวภาพ ของ เฟาซี เพราะ เขากำลังพัฒนาเชื้อโรคที่อาจกลายเป็นโรคระบาดได้
ซึ่ง "โอบามา" ก็สั่งให้ เฟาซี หยุดชั่วคราว โดยตอนนั้น เฟาซี มีห้องแล็บศึกษาอาวุธชีวภาพถึง 18 แห่ง กระจายไปทั่วสหรัฐ หลังจากนั้น เฟาซี ก็ย้ายการทดลองทั้งหมดไปยัง อู่ฮั่น ประเทศจีน เพื่อหลบเลี่ยงสายตาของนักวิทยาศาสตร์ทั้ง 300 คน และเสียงวิจารณ์จากเจ้าหน้าที่รัฐบางคนที่พยายามจะให้เขาปิดโครงการ จึงทำให้การทดลองอาวุธชีวภาพ จึงเกิดขึ้นในแล็บ เมืองอู่ฮั่น
เมื่อไม่นานมานี้ นิตยสาร เนชั่นแนล รีวิว ในนิวยอร์ก รายงานว่า บรรดาผู้บริหารประเทศ และหน่วยงานระหว่างประเทศ ยังคงปิดปากเงียบเกี่ยวกับต้นตอของเชื้อโควิด ระหว่างที่มีการประชุมสุดยอดผู้นำจากองค์การสหประชาชาติ รวมถึงการประชุม จี 7 และ จี 20 แม้กระทั่งสื่อหลักก็ไม่ได้ตั้งคำถามเกี่ยวเนื่องกับต้นตอของโควิด
ทั้งที่เรื่องนี้คือเร่งด่วนและสำคัญ เป็นหายนะภัยด้านสุขภาพที่คร่าชีวิตคนอเมริกันไปถึง 1 ล้านคน มากกว่า ตัวเลขชาวอเมริกันที่บาดเจ็บล้มตายในสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียอีก แต่รายงานระบุว่า รัฐบาลของไบเดน กลับปฏิเสธการสนับสนุนให้จัดตั้งคณะกรรมาธิการอิสระมาตรวจสอบเรื่องนี้