svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

นักลงทุนแห่ซื้อ "หุ้นไทย" หนุนดันดัชนีปิดพุ่ง

15 พฤศจิกายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตลาดหุ้นไทยปิดพุ่ง 29.13 จุด แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ เป็นปลายทาง หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ ต่ำกว่าคาด ดันสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกปรับตัวขึ้นกันถ้วนหน้า คาด SET Index พรุ่งนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,400 -1,430 จุด

นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์  ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล. กรุงศรีพัฒนสิน เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,415.17  จุด บวก 29.13 จุด หรือ 2.10 % โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุด  1,416.89 จุด ต่ำสุด 1,400.26  จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย  63,738.22  ล้านบาท กับ Nation Onlineว่า

SET Index ปรับขึ้นสอดคล้องกับประเทศกลุ่ม TIP แต่ Underperform กว่าประเทศฝั่งเอเชียเหนือ แรงหนุนมาจากมุมมองอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ เป็นปลายทาง หลังเงินเฟ้อสหรัฐรายงานออกมาชะลอลงหนุนสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกปรับตัวขึ้น  

โดยหุ้นกลุ่มที่หนุนดัชนีหลักๆคือ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (DELTA,HANA) ฟื้นตัวหลังจากเมื่อวานปรับลงแรง , กลุ่มพลังงาน(GULF, PTT, EA) กลุ่มค้าปลีก CPAXT, CRC ส่วนกลุ่มที่กดดัชนีหลักๆ คือ ธนาคาร รับ Bond Yields ปรับลง สำหรับหุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่นหลักๆ วันนี้คือ 

💻 HANA +9.04%, DELTA +7.3%, KCE 3.4%, BE8 11.5%, BBIK 5.9%, MTC +6.7%, SAWAD 5.06% เป็นกลุ่มที่ได้จิตวิทยาบวกจาก Bond Yield ปรับลงแรง โดย Bond Yield ไทย อายุ 10 ปี วันนี้ปรับตัวลดลง-13 bps หลุด 3.0% สู่ระดับ 2.99% สอดคล้องกับ Bond Yield ของสหรัฐที่ปรับลงแรงหลังจากหลังเงินเฟ้อเดือน ต.ค.รายงานออกมาชะลอ ในทางตรงข้ามกดดันกลุ่มธนาคาร KTB -1.1%,BBL -0.66%, BAY 0.0%

- STA 4.05%, NER 3.1% ปรับเพิ่มขึ้นรับราคายาง TOCOM  +5.25%DoD ปิดที่ 294.7JPY/kg และมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อ หนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจจีน เดือน ต.ค. (ยอดค้าปลีก, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม) ขยายตัวและออกมาดีกว่าคาด  แนะนำเก็งกำไร ในเชิง Technical เน้น STA  วางแนวรับแรกที่ 15 บาท แนวรับถัดไปที่ 14.7 บาท แนวต้านแรกที่ 16.0 บาท แนวต้านถัดไปที่ 16.9 บาท, Cut loss < 14.2 บาท

 

 


 

นักลงทุนแห่ซื้อ \"หุ้นไทย\" หนุนดันดัชนีปิดพุ่ง

- PTTGC 4.11%, PSL+4.1%,IVL 2.9%, SCGP 2.7% หุ้นที่ทำธุรกิจเชื่อมโยงจีนปรับเพิ่มขึ้นรับตัวเลขเศรษฐกิจจีน เดือน ต.ค. (ยอดค้าปลีก, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม) ขยายตัวและออกมาดีกว่าคาด  โดยแนะนำลงทุน SCGP (TP@ 42 )  วางแนวรับแรกที่ 36 บาท แนวรับถัดไปที่ 35.5 บาท แนวต้านแรกที่ 38 บาท แนวต้านถัดไปที่ 41  บาท Cut loss < 34.5 บาท


🕌WHA 5.8%, AMATA 5.6% รับข่าว 2 ประเด็น 1.กAMATA([email protected]) รับรายงานกำไรปกติ 3Q23 ที่ 510 ลบ. (+493%y-y, +95% q-q) เติบโตสูง y-y, q-q ดีกว่าที่เราและตลาดคาด +15%/+17%ตามลำดับ หลักๆจากรายได้การโอนที่ดิน และส่วนแบ่งกำไรจาก บ.ร่วมธุรกิจโรงไฟฟ้าดีกว่าคาด   2.กระแสการต่างชาติเข้ามาลงทุนไทย ล่าสุดวันนี้ Google ประกาศแผน ลงทุนในไทยเน้นลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล จ่อตั้ง Data Center เร่งส่งเสริม AI

🟡 กลุ่มโรงกลั่น IRPC 4%, TOP +2.05%, BCP +1.14%, มีจิตวิทยาค่าการกลั่น(GRM) อ้างอิงตลาดสิงคโปร์ล่าสุด 14 พ.ย.23 ปรับขึ้น 5.9%d-d  ปิดที่ 5.92 เหรียญฯต่อบาร์เรล และสูงกว่าค่าเฉลี่ย 4Qtd ราว 39% ในเชิงพื้นฐาน

โดยชื่นชอบ  BCP(TP55.0) มอง 2H23-2024F มีปัจจัยบวกเด่นกว่ากลุ่ม และยังมี upside ในระยะยาวจากการจัดโครงสร้างกิจการ รองลงมาคือ TOP(TP77.0) มองผ่านช่วงกดดันมากสุดของเหตุน้ำมันรั่วไปแล้ว ระยะยาวมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเด่นจากการขยายกำลังการผลิต 

ด้านมูลค่าการซื้อขายวันนี้พบว่านักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ  279.82 ล้านบาท บัญชีบล.ซื้อสุทธิ 118.02 ล้านบาท ต่างประเทศซื้อสุทธิ  3,558.85 ล้านบาท  ในประเทศขายสุทธิ 3,956.70 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม คาดดัชนีหุ้นไทยพรุ่งนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,400 -1,430 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,081.56 ล้านบาท ปิดที่ 151.50 บาท ลดลง 1.00 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,316.80 ล้านบาท ปิดที่ 57.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,124.49 ล้านบาท ปิดที่ 218.00 บาท ลดลง 5.00 บาท

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,948.75 ล้านบาท ปิดที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,648.75 ล้านบาท ปิดที่ 98.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

 

นักลงทุนแห่ซื้อ \"หุ้นไทย\" หนุนดันดัชนีปิดพุ่ง

logoline