นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล. กรุงศรีพัฒนสิน เปิดเผยกับ Nation Onlineว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ “ฟื้นตัวต่อ” ประเมินแนวต้านแรกที่ 1,441 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,460 จุด แนวรับแรกที่ 1,403 จุด แนวรับต่อไปที่ 1,395จุด เนื่องจากคาดว่า Bond Yield ลดลง ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงเริ่มมีโมเมนตัมเชิงบวก โดยเฉพาะ SET ที่ดัชนียังอยู่ใน Zone Deep Discount Vlaue PBV -1.5SD หรือปรับฐานลึก
ขณะที่ภายในประเทศนโยบาย Digital Wallet ใกล้ความชัดเจนในสัปดาห์นี้ ผสาน การรายงานกำไร 3Q23F ส่วนใหญ่ที่มีแนวโน้มออกมาดี มองหุ้นที่ปรับฐานลึก + Bond Yield ลง บวกเงินบาทแข็งค่า คาดว่ากลุ่มที่อิงเศรษฐกิจภายในฟื้น GPSC, IVL, SCGP, PTTGC, GULF, TOP, CPALL, KBANK, STEC, DOHOME
ปัจจัยต่างประเทศที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทย
• 7 พ.ย. ประกาศตัวเลขดุลการค้า ก.ย. ของสหรัฐฯ ตลาดคาดขาดดุล -60.5 พันล้านเหรียญ จากเดิมขาดดุล -58.3 พันล้านเหรียญ
• 8 พ.ย. ดัชนีภาคค้าปลีก ก.ย. ของยุโรป
• 9 พ.ย. ยอดผู้ขอรับสวัสดิการครั้งแรกสหรัฐฯ ยังไม่มีคาดการณ์ จากเดิมอยู่ที่ 2.17 แสนราย
• 9 พ.ย. ติดตามเงินเฟ้อทั่วไป ต.ค. ของจีน ตลาดคาด -0.2%y-y จากเดิมอยู่ที่ 0% และ New Yuan Loan ต.ค. ตลาดคาด 6.5 แสนล้านหยวนจากเดิมอยู่ที่ 2.31 ล้านล้านหยวน
• 10 พ.ย. ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ย. 23 ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน คาด 63.5 ชะลอลงต่อเนื่องจากเดิมอยู่ที่ 63.8
• ติดตามสถานการณ์สงครามอิสราเอล – กลุ่มฮามาส หลังกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ (หนุนจากอิหร่าน) ประกาศทำสงครามกับอิสราเอล
ปัจจัยในประเทศ
• 6 พ.ย. พาณิชย์แถลงเงินเฟ้อ CPI ต.ค. ทั่วไป ตลาดคาด +0.1%y-y, +0.1%m-m vs prev. +0.3%y-y, -0.36%m-m
• 10 พ.ย. ติดตามความคืบหน้านโยบาย Digital Wallet
• ประกาศงบไตรมาส 3/66 เรียลเซกเตอร์ หุ้นหลักรายงานกำไร 3Q23 สัปดาห์หน้า คือ TU, GPSC, DOHOME, BCP, SRPC, TOP, IRPC, PTTGC, OSP, CPAXT, BJC, BH, BCH, GULF, MINT, WHA, TRUE, CENTEL, CPALL มองหุ้นน่าสนใจ คือ GPSC, DOHOME, BCP, TOP, PTTGC, CPAXT, GULF, CPALL
หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ
• GULF (TP50): เงินบาทแข็งค่าหนุน ผสานกำไร 3Q23F ดี +212%y-y, +17%q-q
• MAJOR (TP19.10) : ลุ้นโมเมนตัมกระแสหนัง 4Q23 เด่นเป็นรอบ Upgrade Cycle
• PTTGC (TP52): หุ้น Deep Discount ที่ Turnaround กำไร y-y, q-q ตั้งแต่ 3Q23F
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้กับ Nation Online ว่า คืนวันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร 1.5 แสนราย ซึ่งแย่ กว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 1.78 แสนราย พร้อมกับรายงานอัตราการว่างงานที่ 3.9% แย่กว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 3.8% ขณะที่ขยายตัวของค่าแรงที่ 0.2%MoM แย่กว่า Bloomberg Consensus คาดที่ 0.3%MoM
นอกจากนี้ยังรายงานดัชนี PMI ภาคบริการจากสถาบัน ISM ที่ระดับ 51.8 แย่กว่าคาดที่ 53 สำหรับการจ้างงานนอกภาคเกษตรอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานลดลงได้แก่ภาคผลิต สินค้าคงทน คลังสินค้า สะท้อนถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่เริ่มเห็นการอ่อนแอ ภายหลังจากทราบข้อมูลทั้งหมดพบว่า US Bond Yield รุ่นอายุ 2 ปี และ 10 ปีปรับลงพร้อมกับ Dollar Index ที่พลิกมาอ่อนค่า
ส่วน CME FED Watch ล่าสุดให้น้ำหนักราว 95% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยที่ระดับเดิมในการประชุม เดือน ธ.ค. ปรับเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 80% ภาพรวมที่กล่าวไปข้างต้นค่อนข้างเป็นบวกตลาดหุ้น โดยเฉพาะเอเชียที่มีโอกาส Fund Flow จะไหลกลับมา สอดคล้องกับค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่าทดสอบระดับ 35.4 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จากจุดสูง สุดที่ 37.2 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับปัจจัยสัปดาห์นี้ ได้แก่ เงินเฟ้อไทยประจำเดือน ต.ค. ในวันจันทร์ Bloom berg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.1%YoY , 0.1%MoM หากรายงานแล้วต่ำกว่าคาดจะยิ่งเป็นบวกกับตลาดหุ้น ส่วนต่างประเทศ รอติดตาม 1. ถ้อยแถลงของประธาน FED ในวันพุธช่วงกลางคืน
2. ดัชนี PMI ภาคบริการของ EU ในช่วงบ่ายวันจันทร์ (3) เงินเฟ้อจีนในวันพฤหัสบดีช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทย Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ -0.2%YoY และในช่วงกลางคืนกับผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.18 แสนราย
ทั้งนี้ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET สัปดาห์นี้ 1,410 – 1,440 จุด เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังยังแนะสะสมได้สำหรับนักลงทุนระยะกลาง - ยาว จากระดับ Valuation ที่น่าสนใจ แต่ยังเน้นที่หุ้นขนาดใหญ่ อาทิ