"ฟุตบอลโลก 2022" กลับมาแข่งกันอีกครั้งหลังหยุดพักไป 2 วัน โดยเข้าสู่การแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งจะแข่งกันในคืนนี้ (9 ธ.ค.) 2 คู่
โครเอเชีย vs บราซิล
"ตาหมากรุก" โครเอเชีย ดีกรีรองแชมป์เก่าเมื่อปี 2018 หวังคว้าเกียรติยศให้ได้เพื่อปิดฉากยุค "โกลเด้น เจเนอเรชั่น" เนื่องจากเหล่าซูเปอร์สตาร์ของทีมต่างโรยราและคาดว่าจะเป็นศึกฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของพวกเขาแล้ว
โครเอเชียชุดนี้กลายเป็นทีมที่มีเกมรับเหนียวแน่น โดยเสียแค่ประตูเดียวตลอด 4 เกม ส่วนเกมรุก อังเดรจ์ ครามาริช ก็ยังทำผลงานได้อย่างสม่ำเสมอ บวกกับประสบการณ์ของนักเตะอย่าง ลูก้า โมดริช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช และ อีวาน เปริซิช ทำให้พวกเขาสามารถพลิกสถานการณ์ได้อยู่เสมอแม้จะตกเป็นรอง
ด้าน "แซมบ้า" บราซิล มาแข่งขันครั้งนี้ด้วยสไตล์ "บอลทัวร์นาเมนต์" แบบชัดเจน รู้จักเร่งเกมในจังหวะควรเร่ง ผ่อนเกมในจังหวะต้องออมแรง ปรับแท็กติกและใช้นักเตะเหมาะกับสถานการณ์ ที่สำคัญแนวรุกของพวกเขาประสานงานกันได้ดีขึ้นเรื่อยๆในทุกนัดที่ลงสนาม และปรับเปลี่ยนสไตล์ได้หลากหลายจากการเรียกแนวรุกมาถึง 9 คนในทีมชุดนี้
น่าติดตามอย่างยิ่งว่าความเก๋าของโครเอเชีย หรือความหลากหลายของบราซิล ใครจะเป็นฝ่ายคว้าชัย
เนเธอร์แลนด์ vs อาร์เจนตินา
"อัศวินสีส้ม" เนเธอร์แลนด์ ชุดนี้ เรียกได้ว่าหลายคนกำลังอยู่ในช่วงพีคของอาชีพ และยังมีดาวรุ่งที่น่าจับตามอง รวมถึงนักเตะประสบการณ์สูงอยู่ในทีม ทำให้ทีมชุดนี้มีความลงตัวมากที่สุดทีมหนึ่งในบรรดา 8 ทีม ประกอบกับมันสมองของ หลุยส์ ฟาน กัล ที่วางแท็กติกได้อย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งเจ้าตัวก็เชื่อมั่นว่าทีมชุดนี้ของเขามีศักยภาพมากพอจะก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์
"ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา แม้จะพ่ายแบบช็อกโลกต่อซาอุฯในนัดแรก แต่พวกเขาก็เอาตัวรอดและเริ่มเรียกฟอร์มที่ดีขึ้นเรื่อยๆในแต่ละนัดที่ลงสนาม ขณะที่ซูเปอร์สตาร์เบอร์ 1 ของพวกเขาอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ก็ถือว่ากำลังท็อปฟอร์ม และหมายมั่นปั้นมือว่าจะขอหยิบถ้วยแชมป์โลกให้ได้สักครั้งก่อนแขวนสตั๊ด
ทีมที่มีเกมรุกจัดจ้านสองทีมมาเจอกัน โดยมีการเข้ารอบตัดเชือกเป็นเดิมพัน ทำให้น่าติดตามว่าพวกเขาจะวางแท็กติกกันอย่างไรในเกมนี้ จะมาแบบเพลย์เซฟ หรือเปิดหน้าแลกกันเพื่อวัดว่าใครจะดีกว่า