svasdssvasds
เนชั่นทีวี

คอลัมนิสต์

ชิงจังหวะ"ยุบสภา" ฉายภาพ "อนุทิน" ผู้กำหนดเกมนำ ปิดประตูความเพลี่ยงพล้ำ

เพียงแค่ คำประกาศ หากฝ่ายค้านรอไม่ไหว ก็จะ "ยุบสภา" วันที่ 12 ธันวา ให้เลย ดูจะสะเทือนหน้ากระดานทางการเมือง เพราะนับจากนี้  "อนุทิน" คือ ผู้กำหนดเกมให้ฝ่ายค้านต้องเดินตาม ติดตามได้ โดย "อสนีบาต"

22 พฤศจิกายน 2568  ทันทีที่นายกฯอนุทิน ออกมาประกาศเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน หากฝ่ายค้านรอไม่ไหวจะประกาศยุบสภาฯ วันที่ 12 ธันวาคมนี้ซะเลย  

"นี่ไม่ใช่แค่คำขู่ แต่เป็นการฉวยจังหวะ ชิงเกมความได้เปรียบทางการเมืองกลับมาอยู่ในมือ อนุทิน และ ภูมิใจไทย ให้เป็นผู้กำหนดเกมการเมืองนับจากนี้อีกครั้ง"

หลังจากปล่อยให้พรรคเพื่อไทยชิงพื้นที่สื่อผ่าน จุลพันธ์  อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแน่นอน แต่กำลังดูห้วงเวลาจะเป็นช่วงวันไหน เวลาใดที่เหมาะสม 

ทว่า ความเชี่ยวกราดทางการเมืองของอนุทิน ก็ปิดเกมนี้ได้อย่างรวดเร็ว ผ่านสารพันเหตุผลที่มีน้ำหนัก 

“ต่อให้การอภิปรายดี ไม่ดีอย่างไร ความเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยต้องแพ้”  

ที่สำคัญ อนุทิน อ่านเกมออกเมื่อถึงช่วงการหาเสียง บทสรุปของการลงมติไม่ไว้วางใจ จะเป็นตัวบันทึกไว้บนหน้ากระดานการเมือง รัฐบาลอนุทินถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจกระเด็นจากตำแหน่ง ซึ่งพรรคเพื่อไทย จะนำผลจากสภา เป็นเครื่องมือหาเสียงโกยคะแนน ชนิดพูดทุกวันยันลูกบวช  ซึ่งเกมนี้ อนุทินไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นแน่   

เช่นเดียวกับ พรรคประชาชน เมื่อเจอการกำหนดเกมของอนุทิน “จะยุบสภา 12 ธันวาคม “ ย่อมส่งผลไปถึงค่ายส้มปรับทิศทางตนเองไม่ถูกอยู่เหมือนกัน 

เพราะด้วยเงื่อนไข MOA ที่ทำไว้กับภูมิใจไทย ว่า ต้องให้ผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระสองวาระสามเสียก่อน ส่งไปทำประชามติในช่วงเลือกตั้งปลายเดือนมีนาคม หากนายกอนุทิน ยุบสภา 12 ธันวาคม    แผนการตามMOA ล้มครืน

อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย

หรือแม้แต่ อนุทิน ไม่ยุบสภา 12 ธันวาคม เดินหน้าท้าชนให้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ( ซึ่งความจริง ภูมิใจไทย ไม่ให้เกิดแบบนี้อยู่แล้ว ) เมื่อถึงขั้นลงมติ พรรคประชาชนจะทำอย่างไรจะลงมติ ไม่ไว้วางใจ นายกฯอนุทินหรือ เมื่อถึงตอนนั้น พรรคประชาชน จะกล่าวหารัฐบาลอนุทินไม่ทำตาม MOA ไม่ได้ 

ในเมื่อ พรรคประชาชน เป็นตัวตั้งตัวตีทำ MOA  กับภูมิใจไทย สนับสนุนให้ อนุทินเป็นนายกฯแต่มาร่วมลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลอนุทิน อย่างนี้เท่ากับ ใครกันแน่ ผิดข้อตกลงเอ็มโอเอ พรรคประชาชนจึงอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกในเกมนี้ 

ไหนจะเป็นประเด็น ทำให้รัฐบาลอนุทินล้มกลางคัน ต้องเปลี่ยนนายกฯใหม่ ซึ่งจะกลับเข้าสู่เกมเพื่อไทยในการดันแคนดิเดตนายกฯที่เหลืออยู่หนึ่งคนสุดท้าย คือ ชัยเกษม  นิติสิริ   เป็นนายกฯ จะทำอย่างไร หรือแม้แต่เสียงสนับสนุนในสภาฯ จะผ่านไหม ถ้าไม่ผ่าน จะทำอย่างไร จะต้องพึ่งรธน.มาตรา 5 หรือไม่  

ฉะนั้น การประกาศยุบสภาโดยเร็ว ก่อนถึงวันที่ 31 มีนาคมของนายกฯอนุทิน จึงเป็นเกมที่ ภูมิใจไทยกุมความได้เปรียบและยังเป็นผู้กลับมากำหนดเกมความเป็นไปของการเลือกตั้งครั้งหน้าไว้ในมือ  

-ทำไม ภูมิใจไทยได้เปรียบทุกประตู

เหตุเพราะ ภูมิใจไทย กำลังเป็นพรรคติดลมบน จากการบริหารประเทศ เพียงแค่สองเดือน ผ่านนโยบายสร้างผลงานเอาใจประชาชนได้อย่างอยู่หมัด 

-อย่างเช่น  โครงการคนละครึ่งพลัส ที่แฝงไปด้วยการสร้างกระแสเสพติดให้ประชาชน ด้วยการเฝ้ารอคอยเฟสสอง อย่างใจจดใจจ่อ เรียกว่าผูกมัดใจไว้ก่อน ลงเลือกตั้งรอบใหม่ ชนิดมีคาบเกี่ยวซึ่งกันและกัน 

-อย่างเช่น  นโยบายความมั่นคง ชายแดนไทย - กัมพูชา  ที่ภูมิใจไทยพยายามแสดงให้เห็นภาพการทำงานอันตรงกันข้าม กับรัฐบาลเพื่อไทยยุคที่แล้ว แบบหนังคนละม้วน 

ยิ่งภาพจำ อันล้ำค่า กรณี คลิปหลานอิ๊งกับลุงฮุน จนเป็นเหตุให้ ศาล รธน. วินิจฉัยให้ แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกฯ  สะเทือนไปถึงพรรคเพื่อไทย ตกต่ำราวกับหุ้นร่วงถึงขีดสุด กลายเป็นตัวพลิกกระดานความนิยม มาสู่ภูมิใจไทยในฐานะผู้กลับมากอบกู้ชาติ 

ชิงจังหวะ"ยุบสภา" ฉายภาพ "อนุทิน" ผู้กำหนดเกมนำ ปิดประตูความเพลี่ยงพล้ำ

- หรืออย่างเช่น ภาพลักษณ์รัฐบาล ผ่านโฉมหน้ารัฐมนตรีคนนอก ที่ถูกจัดวางไว้อย่างชาญฉลาด ทั้ง เอกนิติ นิติทัณประภาศ  รองนายกฯและรมว.คลัง  และ “คุณแต๋ม” ศุภจี สุธรรมพันธุ์  รมว.พาณิชย์ ที่กำลังสร้างผลงานกอบกู้เศรษฐกิจเดินหน้าเจรจาการค้า สินค้าเกษตร และอีกจิปาถะสามารถโกยรายได้เข้าประเทศ โดยการสรุปออกมาเป็นมูลค่าตัวเลขอย่างเป็นรูปธรรม 

ที่สำคัญอนุทิน ฉวยจังหวะ “เปิดก่อนได้เปรียบ”  ด้วยการเปิดข่าว วางตัวแคนดิเดตนายกฯเบอร์สองเบอร์สาม ยึดพื้นที่สื่อให้กลับมาพูดถึงความเป็นภูมิใจไทย  แม้นาทีสุดท้ายอาจจะเปลี่ยนชื่อก็ได้  

แต่การเปิดก่อน ที่ดูจะขัดใจหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ย่อมทำให้ภูมิใจไทย เรียกกระแสความนิยมในยามนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อออกมาประกาศยุบสภาเร็วก่อนกำหนด  คะแนนผ่านกระแสข่าวนี้ ย่อมส่งผลดีสู่ภูมิใจไทย

-หรือจะเหตุเพราะ ภูมิใจไทย มีความพร้อมในหลายกระบวนท่า  เห็นได้จาก บ้านเล็ก - บ้านใหญ่ จากต่างพรรคแห่ไหลมารวมกันที่ค่ายบ้านใหญ่สีน้ำเงินหรือการโหมโรงปล่อยหัวเชื้อข่าวมาก่อนแล้ว ให้ติดตามการประชุมวิสามัญพรรคภูมิใจไทย ในวันอาทิตย์ที่  23 พฤศจิกายนนี้ ที่จะมีการเปิดตัว บ้านใหญ่เมืองสุพรรณ รวมถึงบ้านใหญ่ชลบุรี ผนึกหลอมรวมเป็น ค่ายใหญ่สีน้ำเงิน สู้ศึกเลือกตั้งสะสมแต้มที่นั่งในสภาให้มากจนขยับเป็นพรรคอันดับหนึ่งในไม่ช้า ก็ย่อมมีความเป็นไปได้  

เห็นได้ชัดว่า "อนุทิน" และค่ายใหญ่สีน้ำเงินกำลังกำหนดเกมบนหน้ากระดานการเมือง ให้ทุกฝ่ายต้องเดินตามในทุกจังหวะของการตัดสินใจ