svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“ผบ.ตร.” ลั่นไม่เคยเล่นลิเก แจงปมเด้ง ผบช.ภ.8 จริงไหม หลังโทรคุย

“ผบ.ตร.” ปัดรับบทพระเอกลิเก ยันทำงานด้วยสมอง ชี้การโจมตีขาดข้อมูลจริง พร้อมแจงปมเด้ง ผบช.ภ.8 จริงไหม หลังต่อสายคุย ข้อเท็จจริงเป็นยังไง

18 พฤศจิกายน 2568 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดใจเป็นครั้งแรกภายหลังจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เผชิญกับการโจมตีอย่างหนักจากภาคสังคมและภาคประชาชนในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย ผบ.ตร. ยอมรับว่าการทำงานใกล้ชิดกับการบังคับใช้กฎหมายและอำนาจหน้าที่ อาจกระทบกระทั่งกับผู้ที่ไม่เห็นด้วยหรือผู้กระทำผิด พร้อมทั้งระบุว่า มีบุคคลที่ใช้โอกาสนี้โจมตี ตร. โดยที่ยังไม่ได้มีการแจกแจงรายละเอียด จนทำให้ประชาชนเชื่อไปตามนั้นโดยไม่ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง

 

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ปฏิเสธการเปรียบเทียบคำพูดและการกระทำของตนเองกับพระเอกลิเก โดยยืนยันว่า ตนเป็นตำรวจมาตั้งแต่เด็กจนโตและไม่เคยเล่นลิเก การเป็น ผบ.ตร. คือการใช้สมองสั่งกำชับให้หน่วยงานปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย และดูแลประชาชน พร้อมย้อนถามผู้ที่วิจารณ์ว่า ตัวคนพูดเองเป็นลิเกอยู่หรือเปล่า โดยยืนยันว่า ทุกวินาทีคิดแต่เรื่องที่จะทำให้องค์กรดีขึ้น และจะพยายามทำให้ ตร. เป็นหน่วยงานที่มั่นคงและต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ดีให้ได้

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.

 

ในส่วนของการวิจารณ์ภาพตำรวจยืนปฏิญาณอุดมคติตำรวจหน้าเสาธง ว่าเป็นการแก้ภาพลักษณ์ที่ไม่ถูกจุด ผบ.ตร. ระบุว่า ตนสนับสนุนการกระทำดังกล่าว เพราะได้เคยให้นโยบายปรับทัศนคติให้ตำรวจตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนไปแล้ว การที่ตำรวจออกมายืนพูดข้อปฏิบัติจึงไม่ใช่เรื่องผิด พร้อมกล่าวถึงการถูกกล่าวหาว่าองค์กรตำรวจเป็นองค์กรอาชญากรรมว่า หวังว่าตำรวจที่ทำงานอยู่คงจะรู้สึกไม่ดี และหากข้าราชการตำรวจคนใดมีพฤติกรรมแอบแฝง และมีข้อเท็จจริงหรือหลักฐานปรากฏ ตนจะดำเนินการถึงที่สุด

 

สำหรับกระแสข่าวว่า ผบช.ภ.8 เรียกรับผลประโยชน์จากการแต่งตั้งโยกย้าย ผบ.ตร. กล่าวเตือนว่า การรับผลประโยชน์เป็นการกระทำที่โง่สุดๆ และได้กำชับห้ามปฏิบัติเด็ดขาด พร้อมยืนยันว่าข้อเท็จจริงได้สอบถาม ผบช.ภ.8 และรองผบช. โดยตรงแล้ว และได้รับคำยืนยันว่าไม่เป็นความจริง

โดยตนได้กำชับให้ทุกคนให้สัจจะวาจาว่า จะไม่ทำเรื่องเสื่อมเสียชั่วร้ายนี้ พร้อมยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่มีการไว้หน้า ไม่ว่าจะเป็นใคร หรือแม้แต่เพื่อนร่วมรุ่นก็ตาม นอกจากนี้ยังได้ฝากบอกไปยังผู้ที่กล่าวหาว่า อย่าจินตนาการว่าสิ่งที่ตนเองทำ คนอื่นก็จะต้องทำ และ ยืนยันว่า ผบช.ภ.8 จะยังคงปฏิบัติหน้าที่ที่เดิม ไม่มีโยกย้ายตามกระแสข่าว

 

ในประเด็นการกล่าวหาว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ในการแต่งตั้งวาระที่จะถึงนี้ โดยอ้างถึง พล.ต.อ. , พล.ต.ท. และภรรยาน้อยของ ก.ตร. นั้น ผบ.ตร. ระบุว่าเป็นการกล่าวหาลอยๆ และขอให้ผู้ที่ให้ข้อมูลนำพยานหลักฐานมาแสดง

 

ส่วนเรื่องตำรวจกว่า 200 นาย ที่อาจเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน ซึ่งมีอดีต ผบ.ตร. อาจเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ผบ.ตร. ระบุว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของ คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) ซึ่งเป็นหน่วยงานใหม่ตาม พ.ร.บ.ตำรวจ และไม่เกี่ยวข้องกับ ผบ.ตร. โดยตรง แต่หากผลสอบสวนแล้วเสร็จ ตร. จะนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาโทษทัณฑ์ต่อไป

 

สำหรับการที่ ผบ.ตร. ออกมาชี้แจงวันนี้ หลังเกิดกระแสสังคมกว่า 2 สัปดาห์ ผบ.ตร. ระบุว่าการชี้แจงไม่ได้เร็วหรือช้า และความเชื่อของแต่ละคนไม่สามารถบังคับกันได้ แต่การออกมาชี้แจงในฐานะหัวหน้าหน่วย เป็นการคลายข้อสงสัยอย่างมุ่งมั่น

 

นอกจากนี้ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ สภาผู้แทนราษฎร จะเชิญไปชี้แจงในวันที่ 26 พ.ย.2568 ว่า หากไม่ติดภารกิจจะไปชี้แจงด้วยตนเอง แต่ได้ฝากเตือนว่าสิ่งที่พูดในที่ประชุม กมธ.มั่นคงฯบางเรื่องอาจหมิ่นเหม่ข้อกฎหมาย เนื่องจากบางเรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรม

 

และสุดท้าย ผบ.ตร. ยังชี้แจงกรณีที่มี รอง ผบ.ตร.ภาพถ่ายกับผู้ต้องหาคดีเว็บพนันและอื่น ๆ โดยระบุว่า ตำรวจเป็นคนสาธารณะ ไม่ทราบว่าใครดีหรือร้าย และการถ่ายภาพคู่กันเฉย ๆ ไม่ถือว่าผิด หากจะผิดจะต้องมีพฤติกรรมที่แสดงถึงการเกื้อหนุน หรือมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งใกล้ชิดกันบ่อยครั้ง