svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ใช้แท็กติกเก่า จับตาปฏิบัติการ “โจ๊กเผาบ้าน” ดิ้นเฮือกสุดท้าย?

ใช้แท็กติกเก่า จับตาปฏิบัติการ “โจ๊กเผาบ้าน” ดิ้นเฮือกสุดท้าย? เพื่อกลับสู่รั้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่านทางรอดศาลปกครองสูงสุด

13 ตุลาคม 2568 วาระร้อนวงการสีกากีและการเมือง ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กมธ.มั่นคงฯ ที่มี นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน เป็นประธาน วาระการพิจารณาเรื่องสแกมเมอร์ต่อจากสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงเว็บพนัน

โฟกัสวันนี้อยู่ที่การเชิญ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. และ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ มาให้ข้อมูล ก่อนที่ "บิ๊กโจ๊ก" จะใช้ไม้เด็ด ด้วยการนำตัวซีเคร็ทอย่าง "น.ส.พิมพ์วิไล" พยานปากเอก มาทิ้งบอมบ์กลางที่ประชุม กมธ.ด้วยการ ยอมรับเป็นคนโอนเงินเว็บพนันเข้ากระเป๋าตำรวจ 

ใช้แท็กติกเก่า จับตาปฏิบัติการ “โจ๊กเผาบ้าน” ดิ้นเฮือกสุดท้าย?

 

เป้าหมายสำคัญการทิ้งบอมบ์ครั้งนี้คือ  ตำรวจชุด PCT4 ที่มี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าชุด ที่ น.ส.พิมพ์วิไล ยอมรับว่าโอนผ่านจริง
 

โดยคนว่าจ้างให้โอนให้ติดต่อกับคนคนหนึ่ง ที่เขาจะมาเรียกเก็บจากตนทุกวันที่ 5 และ 10 ของเดือน โดยเขาแจ้งมาว่าตำรวจชุดนี้คือชุด PCT 4  โดยจะโอนไปให้รองกาโม่ ซึ่งเป็นนายตำรวจอยู่ในชุด PCT 4 เรื่องนี้ได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.หาดใหญ่ เพราะหลังจากที่ตนโดนจับกุม เพราะเป็นแค่คนที่โอนและทำบัญชี จึงรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะไม่ทราบเรื่องมาก่อน แต่มารู้ภายหลัง ทำให้ต้องไปร้องเรียนว่าเมื่อตนโอนเงินให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วทำไมต้องมาจับตนด้วย จึงคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม 
 

น.ส.พิมพ์วิไล


 

อย่างไรก็ตาม การกล่าวหาตำรวจชุด PCT4 เป็นข้อมูลที่ต้องรับฟังอย่างระมัดระวัง เพราะเป็น “คู่ขัดแย้ง” ของ “บิ๊กโจ๊ก” เนื่องจากเคยนำกำลังเข้าค้นบ้านตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร. ฝากรอยแค้นครั้งสำคัญเอาไว้ เนื่องจากเจ้าตัวเชื่อว่า เป็นต้นเหตุทำให้เส้นทางไปถึง ผบ.ตร. ถูกปิดตาย

ส่วนการกล่าวหาชุดจับกุม มีการใช้เทคนิค ส่งคนของตัวเองไปแจ้งความรอไว้ เมื่อกระบวนการตรวจสอบเดินหน้า ก็ออกมาให้ข่าวว่ามีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น เพราะชุดจับกุมถูกตรวจสอบ ถูกดำเนินคดี ทั้งๆ ที่ฝ่ายตัวเองเป็นฝ่ายร้องเอาไว้เอง 

บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.

เทคนิคแบบนี้ “บิ๊กโจ๊ก” เคยใช้มาแล้ว ตอนที่พยายามดึงคดีออกจากมือพนักงานสอบสวน เพื่อให้ส่ง ป.ป.ช.ให้ได้ ถึงขั้นส่งลูกน้องเข้าแจ้งความที่ สน.เตาปูน ว่าลูกน้องของ “บิ๊กโจ๊ก” ที่เป็นตำรวจ เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน เพื่อให้เป็น “คดีความผิดของเจ้าพนักงาน” จะได้ ส่ง ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวน ซึ่งรู้กันดีว่า “ตำรวจใหญ่” มีอิทธิพลกับกรรมการ ป.ป.ช.บางคน

และลูกน้องของ “บิ๊กโจ๊ก” คนเดิม ก็เป็นคนไปแจ้งความเอาผิด “ชุดจับกุมของ PCT4” ว่ากลับคำให้การ เพื่อช่วย สส.ชนนพัฒน์ แต่เมื่อจเรตำรวจสอบออกมาแล้ว พบว่าไม่มีการกลับคำให้การ มีแต่พนักงานสอบสวนที่ไปสอบ ซึ่งไม่รู้เป็นลูกน้องใคร ถูกวางงานมาหรือไม่ ไปสอบแล้วไม่ชัดเจน ทำให้สำนวนกำกวม สุดท้ายอัยการสั่งไม่ฟ้อง

การออกมาเคลื่อนไหวรอบนี้ ถือเป็น “เฮือกสุดท้าย” เพราะคดีของ “บิ๊กโจ๊ก” งวดเข้ามาทุกที ซึ่งเป็นคดีในศาลปกครองสูงสุด หากศาลเห็นตามมติคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ