svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“บิ๊กโจ๊ก” ร้องขอความเป็นธรรม จ่อถูกตั้งคดีใหญ่จากมูลคดีเก่า

“บิ๊กโจ๊ก” เข้าร้องขอความเป็นธรรมผู้การตำรวจไซเบอร์ หลังรู้ตัวว่าเตรียมถูกฟันคดีใหญ่ ออกหมายจับซ้ำ จากมูลคดีเก่า

17 พฤศจิกายน 2568 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. เดินทางมาที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ เพื่อยื่นหลักฐาน  ถึงผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ และ ผบ.ตร. ไม่ให้มีการดำเนินคดีซ้ำในคดีเรื่องเว็บพนันออนไลน์ หลังจากที่ทราบมาว่า หลังจากที่ตนไปให้ข้อมูลกับกรรมาธิการ เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 68 ที่ผ่านมา ก็มีการเสนอจากกองบังคับการตำรวจไซเบอร์ 1 เพื่อเสนอให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน ดำเนินคดีกับตนซ้ำอีก โดยแยกเส้นบัญชีม้าเดิม มาดำเนินคดีซ้ำ เพื่อจะออกหมายจับเองซ้ำอีก แต่ตนรู้ทันก่อน จึงนำข้อมูลมาให้ โดยมีรองผู้การที่เซ็นมา ชื่อรอง ป. รุ่นเดียวกับ พล.ต.ท.ไตรรงค์ แต่ก็ตนไม่ได้ว่าท่านว่าเกี่ยวข้อง

ก่อนอธิบายย้อนว่า ในคดีของตน ได้สืบสวนจนเชื่อว่า พ.ต.ท.คริษฐ์ เป็นผู้ใช้บัญชีม้า 6 บัญชี ซึ่งคดีความผิดเหล่านี้ เป็นไปตาม ม.19  คือ ห้ามฟ้องซ้ำ ซึ่งคดีดังกล่าวเป็นความผิดที่เกี่ยวเนื่องกัน ผู้รับประโยชน์ มี พ.ต.ท.คริษฐ์ คนเดียว จะฟ้องซ้ำไม่ได้ ต้องสอบสวนในคราวเดียวกัน จะไปแบ่งแยกไม่ได้

แตกต่างจากคดีของอดีต ผบ.ตร. ที่มีเส้นเงินไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน แต่กลับไม่ถูกให้ออกจากราชการเหมือนตน ทั้งที่ของตนไม่มีเส้นเงินเว็บพนันมาที่ตนเลย  ซึ่งการทำคดีของตนเองเป็นสี่มาตรฐาน พร้อมย้ำว่า หากมีคนที่ถูกกระทำแบบตนสักคนเดียว ตนเองจะยอมถอนฟ้องทุกคนเก็บของ และกลับไปอยู่ที่จังหวัดสงขลา 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอ้างว่า หากสมมุติว่า อดีต ผบ.ตร.รับเงินจากเว็บพนันในเว็บ  100 เว็บ จะต้องแบ่งแยกคดีเป็น 100 คดี หรือ และออกหมายจับสัก 100 ครั้งหรือไม่ ซึ่งทำไม่ได้ กลั่นแกล้งผู้ต้องหาไม่ได้ และจากที่ ผบ.ตร.บอกว่า ตำรวจรับส่วยแค่ 1% อยากจะถามกลับว่าใน 1% นั้นมีท่านอยู่ด้วยหรือไม่  และวันนี้ตนเองดีใจที่ทำให้ประชาชนได้เห็นว่า มีตำรวจรับส่วยจริง และหากตนเป็น ผบ.ตร. การปราบปรามและเว็บพนันจะกลายเป็นศูนย์ เพราะปราบง่ายนิดเดียว จับง่ายกว่าจับพระ เพราะเป็นเป้านิ่ง 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.

ส่วนการที่มีการให้ตำรวจแต่ละโรงพักไปยืนปฏิญาณตน คนที่ไปยืนไม่ใช่เป็นคนที่รับส่วย แต่คนที่รับกลับไม่ได้ไปปฏิญาณตน พวกน้องๆ ถึงทนไม่ไหวและแจ้งมาที่ตนว่า จะมีการดำเนินคดีกับตน และคิดผิดที่เอาตำรวจ 2 แสนนายมาถล่มตน  และอย่ามากล่าวหาว่า ตนทำลายองค์กรหรือเนรคุณ ตนติดหนี้บุญคุณเรื่องการเติบโตในหน้าที่ราชการ ติดหนี้บุญคุณอยู่สองคน คือ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เมตตาตั้งตนขึ้นมา แต่คนที่ต้องติดหนี้จริงๆ ที่สุดก็คือ ประชาชน


ทั้งนี้ "บิ๊กโจ๊ก" ยังแฉอีกว่า ผู้กำกับ รองผู้กำกับโรงพักส่วนใหญ่ ใช้บัญชีม้าหมด เพื่อรับเงินผิดกฎหมาย ในขณะที่ตนเองอยู่ระดับ ตร. แล้ว เป็นผู้บัญชาการระดับสูง ไม่ได้โง่ขนาดที่จะให้ลูกน้องเอาเงินบัญชีม้า ไปจ่ายเงินค่าโทรศัพท์แค่หลักพัน ร้อยล้านถ้าจะเอา เอาเป็นหลักร้อย..ดีกว่า ซึ่งสมัยก่อนไม่เหมือนกับสมัยนี้ ที่ตนเป็นผู้กำกับ ซึ่งปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบไปก็ต้องถามว่า พ.ต.ท.คริษฐ์ เปิดบัญชีดังกล่าวไว้ทำไม แต่ที่แน่ๆ ไม่ได้เกี่ยวกับตน


ผู้สื่อข่าวถามว่า จากคลิปที่ สส.ชนนพัฒฐ์ บอกว่าถ้าเคลียร์ได้ รอบหน้าได้เป็นรัฐมนตรีเลย เรื่องแบบนี้มันเคลียร์กันได้หรือ บิ๊กโจ๊ก บอกว่ายาก
 

ในส่วนของ สส.ชนนพัฒฐ์ สส.จังหวัดสงขลา มีหรือที่ตนจะไม่เคยไปนั่งกินกาแฟด้วย มีหรือจะไม่รู้ว่าทำอะไร และมีหรือที่เค้าจะไม่มาติดต่อมาประสานสัมพันธ์ตนเอง แต่ต้องบอกว่าเรื่องแบบนี้ตนเองไม่เอา ถ้าวันนี้ตนเอาซักนิดเดียววันนี้กูตายแล้ว  ตนเป็นคนสงขลา ตอนเป็น รอง ผบ.ตร.ไม่ได้ดูหน้างานนี้ แต่สงขลามีหรือที่ค่ารับรู้มันจะไม่ให้ ซึ่งตนเองเกลียดมากเรื่องแบบนี้ ถ้าวันนึงเป็น ผบ.ตร.จะปราบให้หมด