
3 พฤศจิกายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่คณะกรรมการและผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ว่า วันนี้ไม่ได้เป็นการมอบนโยบายเพราะได้มอบนโยบายไปนานแล้ว แต่มาติดตามความคืบหน้า และสอบถามถึงความต้องการว่าอยากให้รัฐบาลสนับสนุนอะไรบ้าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในยุคที่อาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือสแกมเมอร์ เป็นเรื่องที่ถูกบรรจุเป็นวาระแห่งชาติ ก็จะต้องดำเนินการให้การสนับสนุน ปปง.อย่างเต็มที่
ส่วนมีการกำชับ ปปง. ให้ดำเนินการอย่างเข้มข้นเพิ่มขึ้นหรือไม่เพราะถูกจับตา และมีความกังวล ว่าอาจจะถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้มีการพูดเรื่องนี้ในที่ประชุม เพราะไม่ใช่เฉพาะเรื่องภายในประเทศ หากไม่มีการสร้างความมั่นใจเรื่องการปราบปรามผู้กระทำผิดโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานการฟอกเงิน ก็จะมีผลต่อความเชื่อมั่นของนานาชาติต่อประเทศไทย ซึ่งไม่เป็นผลดี และจะสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศเป็นอย่างมาก ดังนั้น ปปง. ต้องดำเนินการอย่างเต็มที่ ที่จะไม่ให้มีเงินดำเงินเทา เข้ามาอยู่ในระบบการเงินของประเทศไทย
ส่วนที่ฝ่ายค้าน เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งจัดการเรื่องสแกมเมอร์นั้น นายอนุทินกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีไม่ต้องจัดการ เพราะเรามี ปปง. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะดำเนินการ และ หากตรงไหนเข้าข่ายและมีพฤติกรรมฟอกเงิน ก็มีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่จะดำเนินการซึ่งเป็นหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ อยู่แล้ว
และจากการหารือในที่ประชุม ประธาน ปปง.คนปัจจุบัน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ก็เป็นอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งท่านได้นำเสนอ ว่าจะเร่งทำบันทึกความร่วมมือ(MOU) โดยมี 4 หน่วยงานหลักคือ ปปง. , กระทรวงมหาดไทย , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ DSI มาทำข้อตกลงในการทำงานร่วมกัน เพื่อปราบปรามการฟอกเงิน การใช้ระบบปราบปราม อาชญากรรมทางเทคโนโลยีและเรื่องสแกมเมอร์ทั้งหลาย เพราะเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ โดยจะลงไปถึงระดับปฏิบัติ คือผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย
เมื่อถามถึงกรอบระยะเวลาในการดำเนินการ แก้ปัญหาสแกมเมอร์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรารีบอยู่แล้ว ขณะนี้สามารถอายัดวงเงินได้ 20,000 กว่าล้านบาทแล้ว และมีการทยอยฟ้อง บางทีเรื่องพวกนี้ พูดไม่ได้ คนก็เลยนึกว่าไม่ได้ทำอะไร แต่ของพวกนี้ต้องใช้การข่าว ต้องไปสืบสวน เจาะลึกลงรายละเอียด หากมีหลักฐานครบถ้วนก็ดำเนินการทันที ซึ่งไม่ใช่เฉพาะ ปปง. แต่ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็รายงานทุกวัน ถึงการอายัดทรัพย์ผู้กระทำผิด รวมถึงเรื่องยาเสพติด บ่อนการพนัน ค้ามนุษย์ ทั้งหมดมีการดำเนินการ แต่ของพวกนี้หากพูดทั้งหมดก็เท่ากับว่าเผยไต๋ แบบนั้นไม่ได้ เรื่องพวกนี้ต้องมีวิธีการมีเครื่องมือและเทคโนโลยี ที่ต้องนำหน้าผู้กระทำผิด เราเป็นรัฐเราต้องเหนือกว่า ต้องควบคุมทุกอย่าง
เมื่อถามว่า ได้รับรายงานหรือไม่ว่า ขณะนี้แก๊งสแกมเมอร์มีการมาตั้งฐานในประเทศไทยมากขึ้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนก็พูดแล้วว่า อย่าไปสนใจฝ่ายตรงข้าม หรือนอกบ้านมาก ตนยังบอกเลยว่าหากพาเลขาฯ ปปง. ไปเดินจะพบกับรังสีอำมหิตแน่นอน จะรู้ได้ทันทีว่ามีอะไรที่ไม่ถูกต้อง ก็ให้ไปดำเนินการตรงนั้น ซึ่งตนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ทราบหมดตนก็แค่บอกว่าให้เร่งดำเนินการ เพราะเป็นที่สนใจของประชาชน และเราถูกกดดันจากประชาคมโลกด้วย จากที่ตนไปประชุมอาเซียนซัมมิทและประชุมเอเปคกลับมา ก็มีเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
ส่วนกรณีที่ทาง ปปง. ขอให้ช่วยสนับสนุนระบบ AI เข้ามาในการทำงานนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ขอให้นำเสนอขึ้นมา เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนและสำคัญ เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ หากเสนอขึ้นมาและต้องใช้งบกลางก็ต้องใช้