svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"นายกฯ" สรุปผลประชุมสุดยอดอาเซียน ตปท.พร้อมร่วมมือไทย "ต้านสแกมเมอร์" จีนไฟเขียวโควตาซื้อข้าวเพิ่ม 5 แสนตัน

"นายกฯ" สรุปผลร่วมเวที ASEAN-APEC เผย ตปท.พร้อมร่วมมือไทย "ต้านสแกมเมอร์" ปลื้ม! จีนไฟเขียวโควตาซื้อข้าวเพิ่ม 5 แสนตัน ปชช.จะมีชีวิตดีขึ้น มีเงินในกระเป๋ามากขึ้น

กรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงสรุปภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจการประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 26–28 ตุลาคม และการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ที่เมืองคยองจู ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม ถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 และเดินทางถึงประเทศไทยเมื่อคืนที่ผ่านมา

 

 

2 พฤศจิกายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ แถลงสรุปภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจการประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ว่า จากการเข้าร่วมประชุมตลอดสัปดาห์ในครั้งนี้ ได้พบกับผู้นำรวม 15 ประเทศ  3 องค์การระหว่างประเทศ และผู้บริหารระดับสูงหรือ CEO กว่า 20 บริษัทชั้นนำของโลก พร้อมยืนยันว่า ในทุกวงประชุมไทยได้เลือกสิ่งที่ต่างประเทศ น่าจะลงทุนและร่วมมือกันได้ไปเจรจา ซึ่งหลังจากที่ตนกลับมาแล้ว ก็จะมีทีมที่จะไปเจรจาต่อ เพื่อให้ได้ผลเป็นตัวเลข เป็นรายได้เข้าประเทศ พี่น้องชาวไร่ชาวนาจะขายผลผลิตได้ในราคาดีขึ้น แรงงานไทยจะมีทางเลือกในการทำงานมากขึ้น นักท่องเที่ยวจะมาเที่ยวมากขึ้น และเด็กไทยจะมีโอกาสไปศึกษาในสาขาที่ต้องการด้วยตัวเลือกปลายทางที่มากขึ้น

 

 

"นายกฯ" สรุปผลประชุมสุดยอดอาเซียน ตปท.พร้อมร่วมมือไทย "ต้านสแกมเมอร์" จีนไฟเขียวโควตาซื้อข้าวเพิ่ม 5 แสนตัน

 

 

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงว่า ในทางพาณิชย์ ประเทศไทยเน้น 4 เรื่องหลักที่จะวางตำแหน่งให้ไทยเป็นศูนย์กลางหรือฮับของภูมิภาค ได้แก่ เรื่องความมั่นคงทางอาหาร การคมนาคมขนส่งโลจิสติกส์ การเป็นศูนย์กลางทางดิจิทัล และเศรษฐกิจสีเขียว โดยในวงประชุมครั้งนี้ ไทยได้ทำการเปิดตลาดข้าวและสินค้าเกษตรของไทยให้กว้างขึ้น ให้คนไทยขายข้าวและพืชผลทางการเกษตรได้มากขึ้นในราคาที่ดีขึ้น ไทยได้มีการเจรจาเรื่องการเพิ่มโควตาแรงงานถูกกฎหมายในเกาหลีใต้ เปิดโอกาสให้คนไทยไปทำงานได้มากขึ้นและขอให้มีการดูแลการเข้าเมืองของนักท่องเที่ยวไทย ให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้น เราได้สร้างความร่วมมือกับรัฐบาลแคนาดาในหลายด้าน ตั้งแต่การท่องเที่ยวที่จะมีการเปิดเที่ยวบินเพิ่มเพื่อให้บินตรงถึงกันได้อย่างสะดวก และเน้นการเป็นศูนย์กลางแห่งความมั่นคงทางอาหาร เพราะต่างประเทศมีหลายอย่างที่ปลูกเองไม่ได้

 

 

​สำหรับการเจรจาแบบทวิภาคีกับอีกหลายประเทศนั้น

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มีข้อตกลงความร่วมมือที่สำคัญเกิดขึ้นในหลายด้าน เช่น ไทย-สิงคโปร์ จะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจในเรื่องการค้าข้าวเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารของภูมิภาค ไทย-มาเลเซียตกลงที่จะใช้ศักยภาพสินค้าเกษตรไทยหนุนห่วงโซ่อาหารโลก และประเทศไทยจะร่วมผลักดันให้มีการทบทวนข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอาเซียน-อินเดีย เพื่อลดอุปสรรคทางการค้า พร้อมยังได้มีการหารือกับบรูไนถึงการสานต่อความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหารฮาลาล การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การส่งออกสินค้าเกษตร และการส่งเสริมการค้าการลงทุนในอีกหลายด้านด้วย  
 
มั่นใจว่า ความร่วมมือเหล่านี้ก็จะเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาด ราคาสินค้าเกษตรของเราจะมีเสถียรภาพขึ้นและเป็นการลดต้นทุนโลจิสติกส์ในระยะยาว ซึ่งสำหรับประเทศที่มีศักยภาพในการลงทุน ผมก็ได้ชักชวนให้ภาคเอกชนของเขาเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ระบบการจ่ายเงินดิจิทัล ศูนย์ข้อมูลดาตาเซนเตอร์ เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และการบริการด้านสุขภาพด้วย

 

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า ประเทศไทยตั้งใจจะเป็นผู้นำในภูมิภาคในเรื่องการร่วมกันต่อต้าน “อาชญากรรมข้ามชาติ” ต่อไป ซึ่งข้อเสนอของไทยที่เสนอให้มีการจัดการประชุมระหว่างประเทศเรื่องการปราบอาชญากรรมข้ามชาติก็ได้รับการตอบสนองอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะจากประเทศจีน สหรัฐฯ แคนาดา เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย ซึ่งได้แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมด้วย
 


​นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ภารกิจครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางของทีมไทยแลนด์เพื่อเศรษฐกิจและความมั่นคงซึ่งเป็นไปด้วยเกียรติภูมิของประเทศ พร้อมย้ำว่า ได้ยืนบนหลักการของความถูกต้อง และผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจหรือความมั่นคง พร้อมให้ความมั่นใจว่าในทุกการลงนามไม่ว่าจะเป็นแนวทางสันติภาพไทย-กัมพูชา กรอบความตกลงทางการค้า หรือบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาพัฒนาแร่สำคัญ ล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและเป็นไปตามกฎหมายไทยอย่างเคร่งครัด
 
 

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำถึงการหารือกับประเทศสหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยหลังจากได้มีการพบปะหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ เจ ทรัมป์ หลายครั้ง ระหว่างการเยือนทั้งสองประเทศ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในพัฒนาการของการเจรจาด้านภาษีแล้ว และได้พบปะกับประธานาธิบดีของสาธารณรัฐประชาชนจีนวานนี้ ซึ่งเป็นการหารือทวิภาคีที่ฝ่ายไทยได้เน้นเรื่องการสานต่อความสัมพันธ์ โดยเฉพาะในปีนี้ซึ่งเป็นปีที่ไทยกับจีนเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 50 ปีว่า การเจรจาก็เป็นไปด้วยดี และเต็มไปด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยนายสี จิ้น ผิง ยังได้แสดงท่าทีคลายกังวล เมื่อได้ทราบว่ารัฐบาลไทยในปัจจุบันไม่มีนโยบายให้เปิดกาสิโนแล้ว ซึ่งหมายความว่ารัฐบาลจีนจะสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาอย่างสบายใจได้ และจีนได้เปิดรับโควตาซื้อข้าวจากไทยเพิ่มอีก 500,000 ตัน

 

 

นายกรัฐมนตรี ยังได้ขอบคุณการทำงานของคณะผู้แทนไทยว่า เป็นไปด้วยความรอบรู้และรอบคอบ พร้อมให้ความเชื่อมั่นว่า ประตูหลายบานที่เปิดไว้จะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชนชาวไทย จะทำให้คนไทยมีเงินในกระเป๋าที่มากขึ้นและความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตที่เพิ่มขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
 

 

 

รมว.กต.โว! นายกฯ เยือน ASEAN-APEC ประสบความสำเร็จกระทบไหล่ผู้นำมหาอำนาจ - ย้ำไทยได้รับการขานรับปราบสแกมเมอร์

 

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เผยว่า ถือว่าประสบความสำเร็จ ในแง่จังหวะเวลา เพราะรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศไม่ถึง 1 เดือน แต่นายกรัฐมนตรี ได้พบเจอผู้นำอาเซียนทั้งหมด และเจอผู้นำที่สำคัญ เช่น ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น ถือว่า ประสบความสำเร็จเพราะไม่ใช่แค่ในที่ประชุม แต่ได้มีโอกาสทำความรู้จักความคุ้นเคยนอกห้องประชุม และระหว่างการประชุมด้วย ซึ่งจะมีส่วนช่วยอย่างมากในการพัฒนาความสัมพันธ์ และให้เขามีความมั่นใจในประเทศไทย

 

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังระบุว่า ในการประชุมสุดยอดอาเซียน และเอเปค ได้มีการพูดคุยในเรื่องสถานการณ์โลกที่สำคัญ ประเทศไทยได้นำเสนอท่าทีที่แข็งขัน ในเรื่องสำคัญ ที่ไทยต้องมีแนวทาง และข้อเสนอที่สร้างสรรค์บางอย่างในการจัดการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติทั้งหลาย อาชญากรรมไซเบอร์ สแกมเมอร์ ซึ่งได้รับการขานรับที่ดี

การประชุมและได้พบปะกับผู้นำ และภาคเอกชน นายกรัฐมนตรี ได้แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยกำลังขับเคลื่อนไป เพราะแม้รัฐบาลนี้อยู่ 4 เดือนก็จริง แต่รัฐบาลมองรากฐานในระยะยาว ซึ่งไม่ใช่เฉพาะรัฐบาล แต่เป็นเรื่องความมั่นใจต่อประเทศไทย และทิศทางของประเทศไทยที่จะไปข้างหน้า

 

 

"นายกฯ" สรุปผลประชุมสุดยอดอาเซียน ตปท.พร้อมร่วมมือไทย "ต้านสแกมเมอร์" จีนไฟเขียวโควตาซื้อข้าวเพิ่ม 5 แสนตัน