
7 สิงหาคม 2568 มีข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ระดับสูง หน่วยงานความมั่นคงระดับประเทศ บอกกับ “ทีมข่าวข้นคนข่าว” ว่า จริงๆ แล้ว หน่วย BHQ ของกัมพูชา มีพื้นฐานมาจากหน่วยอารักขาบุคคลสำคัญ หรือ VIP protection
ซึ่งได้รับการอบรมเฉพาะส่วนนี้จากจากกองทัพไทย โดย ศูนย์รักษาความปลอดภัย หรือ ศรภ. (เป็นหน่วยที่ขึ้นกับกองทัพไทย - ความหมายถึงกองบัญชาการกองทัพไทย)
พื้นฐานของหลักสูตรเป็นงานด้านการคุ้มครองความปลอดภัยให้กับผู้นำ แต่ความร่วมมือกับไทย เป็นการฝึกอบรมเพิ่มเติม เฉพาะเรื่องงานด้านการรักษาความปลอดภัยในเมือง เพื่อรับมือกับการก่อการร้าย
เนื่องจาก ศรภ.ของไทย เป็นหน่วยที่เชี่ยวชาญงานด้านการต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งไม่ใช่งานด้านการทำสงครามที่ต้องใช้ทักษะคนละรูปแบบกัน
ทั้งนี้ การฝึกอบรมกับ ศรภ.ของไทย เป็นช่วงที่สองประเทศมีความสัมพันธ์อันดี เป็นการสานสัมพันธ์ด้านต่างๆ ในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน แต่เป็นการฝึกอบรมร่วมกันเพียงระยะสั้นเท่านั้น
มีข้อสังเกตคือ ภารกิจหลัก และการฝึกอบรมของ BHQ เน้นหนักไปในเรื่องการอารักขาบุคคลสำคัญ ฉะนั้นการนำหน่วยนี้ไปใช้ในการสู้รบแบบทหาร
จึงไม่เหมาะกับทักษะที่คนในหน่วยนี้ถูกฝึกมา และน่าจะเป็นจุดอ่อน รวมถึงฝ่ายไทยซึ่งเคยร่วมฝึกอบรมให้หน่วยพิเศษนี้ จึงรู้มือ รู้ทาง และสามารถรับมือกับปฏิบัติการของหน่วยนี้ได้เบ็ดเสร็จ
ความร่วมมือกับกัมพูชาด้านกิจการความมั่นคง ยังมีอีกหลายโครงการ แต่เน้นด้านการศึกษา ไม่ใช่การฝึกร่วมหรือซ้อมรบ
เช่น วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หรือ วปอ. บางปีมีการส่งบุคลากรมาร่วมในหลักสูตร ล่าสุดคือรุ่น 67 แต่คนที่ถูกส่งมาร่วมศึกษา ได้เดินทางกลับไปแล้ว และทางการไทยได้ตัดโควตาของกัมพูชาในปีต่อๆ ไป
นอกจากนั้นยังมีโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ซึ่งบางปีมีการส่งทหารมาร่วมเรียน เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี แต่บางปีก็ไม่ส่งมา
ล่าสุดเมื่อเกิดสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดน และต้นเหตุเกิดจากกัมพูชาทำให้ทางการไทยยกเลิกโควตาฝึกอบรม และศึกษาของฝ่ายกัมพูชาทุกหลักสูตรของทุกหน่วยงาน