"พิชิต" แย้ม "ปู" กลับไทยอาจใช้สูตรคล้าย "ทักษิณ" โมเดล

18 เมษายน 2567 ยังเป็นประเด็นให้จับตาว่าจะเป็นเรื่องจริงตามที่ "นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาจริงหรือไม่ โดยเฉพาะการจะได้เห็น "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกฯ กลับประเทศไทย มาร่วมทำบุญกันในสงกรานต์ปีหน้า

แม้จะมีนักวิชาการหลายคนออกมาให้ความเห็นกับ "NationSTORY" กับโอกาสที่จะเป็นไปได้นั้นมี 2 แนวทางด้วยกัน คือ

• การออกกฎหมายนิรโทษกรรม
• การแก้ไขระเบียบกรมราชทัณฑ์

โดย "นายพิชิต ชื่นบาน" ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงแนวทางเกี่ยวกับการกลับไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามข้อกฎหมายนั้น เมื่อถึงเวลาแล้วมันมีกระบวนการ ซึ่งกระบวนการเป็นไปตามกฎหมาย ถือว่าอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น 

สำหรับกระบวนการจะคล้ายกับนายทักษิณหรือไม่ เพราะนายทักษิณระบุว่าถูกยัดคดีเยอะ แต่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้นมีเพียงแค่คดีเดียว ซึ่งส่วนตัวมองว่า โมเดลก็คล้ายๆ กัน  

ส่วนจะเป็นช่วงเดือน ต.ค. หรือช่วงปลายปีนี้ ตนยังไม่ทราบจริงๆ ได้แต่ดูเรื่องคดีให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถึงเวลามันมีกระบวนการที่ต้องทำ กฎหมายเขียนไว้แล้วว่า ต้องทำอย่างไร 1 2 3 4 ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน ยืนยันว่ากรณีนี้ไม่มีสองมาตรฐาน รวมถึงที่ผ่านมาก็ไม่มีสองมาตรฐาน คือ มันเป็นเรื่องการบังคับโทษ การบริหารโทษ ไม่มีอะไรสองมาตรฐาน

"ผมถึงบอกว่า พอเราไม่เข้าใจ หรือบางทีมองไปแบบคนรัก คนชอบ แต่ที่ผ่านมาเรายึดหลักการบังคับโทษ บริหารโทษ กระบวนการยุติธรรม สิ้นสุดนับแต่ศาล ออกใบแดงแจ้งโทษแล้ว เพราะฉะนั้น รูปแบบอะไรก็คล้ายๆกัน แต่เมื่อถึงเวลาแล้ว เมื่อท่านตัดสินใจอย่างไรก็อยู่ที่ท่าน กระบวนการไม่มีอะไรซับซ้อน" นายพิชิต กล่าว 

นายพิชิต ยังกล่าวยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่ได้อะไรถึงการกลับบ้าน เพราะไม่ได้คุยกันนานแล้ว ตั้งแต่รายงานคดีเมื่อตอนยกฟ้อง

ส่วนกรณีมีชื่อติดโผปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยจะมานั่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ส่วนตัวยังไม่ทราบ ทำงานอย่างเดียว และยังไม่ได้พูดคุยกับนายกฯ ในเรื่องนี้ ไปพูดอะไรก่อนไม่ได้ ตนก็ทำงานตามปกติ ยังไม่ได้เตรียมยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. เพราะทุกวันนี้ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว 

"ราเมศ" ท้าพา "ยิ่งลักษณ์" กลับทำให้สุดซอย

ขณะที่ "นายราเมศ รัตนะเชวง" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่นายพิชิต ให้สัมภาษณ์ถึงการกลับมาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้น ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ เพราะเชื่อว่าทุกคนพอจะคาดการณ์ได้อยู่แล้ว และการที่ระบุว่าโมเดล ก็คล้ายๆกัน กับนายทักษิณ ขณะนี้เวลานี้ หมดเวลาเตือนรัฐบาลแล้ว มีแต่จะบอกว่าถ้าคิดจะทำอะไรก็เดินไปให้สุดซอย

"กระบวนการยุติธรรมของประเทศถ้าจะพังเพราะการสนองความต้องการส่วนตัว ในการช่วยเหลือพวกพ้อง วันหนึ่งประชาชนไม่มีวันยอมแน่นอน และคดีจำนำข้าวจะมาอ้างว่าเป็นคดีที่เกิดขึ้นหลังจากยึดอำนาจ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะคดีจำนำข้าวเกิดขึ้นจากการตรวจสอบในระบบประชาธิปไตยที่ผ่านกระบวนการตรวจสอบโดยฝ่ายนิติบัญญัติ" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

รอดูจะใช้โมเดลทักษิณจริงหรือไม่

นายราเมศ กล่าวต่อว่า โดยฝ่ายค้านในขณะนั้นคือพรรคประชาธิปัตย์ ส่งคดีต่อไปยัง คณะกรรมการ ป.ป.ช. ส่งต่อไปยังพนักงานอัยการ แล้วก็ไปจบที่ศาลฎีกา ทุกกระบวนการเป็นไปตามหลักการในกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่การยัดข้อหาแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทุกคนอาจจะคาดการณ์กันไป รอดูเรื่องจริงดีกว่าว่าจะใช้โมเดลทักษิณจริงอย่างที่พูดหรือไม่