
20 ธันวาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวมอบของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนประจำปี 2567 ตามโครงการ “4 Day 4 Gifts for you” ประกอบด้วย 4 กิจกรรม เพื่อคืนความสุข สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ทั้งการคืนความสุขด้วยคูปองแทนเงินสด เครดิตเงินคืน และส่วนลด ผ่านทางออนไลน์ และห้างสรรพสินค้า อาทิ ลาซาด้า, ช้อปปี้, ซีพี, ท็อปส์, เอไอเอส, ฮอนด้า และบริษัทแสนสิริ เป็นต้น รวมไปถึงให้โค้ดส่วนลดของสายการบิน ได้แก่ ไทยไลอ้อนแอร์, แอร์เอเชีย, นกแอร์, ไทยเวียตเจ็ท
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้ เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคในการเดินทาง โดยใช้ขนส่งสาธารณะในช่วงปีใหม่ และการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผ่านบริการสายด่วน 1166 และแอพพลิเคชั่น OCPB connect ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภคในช่วงวันหยุดปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2566 ถึง 1 มกราคม 2567
ทั้งนี้ รัฐบาลยังได้เพิ่มบริการของรัฐบนแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” เพื่อมอบความสะดวกให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลภาษีที่ดิน ระบบยื่นคำร้องขอเทียบวุฒิการศึกษาออนไลน์ หลักฐานแสดงตนกำลังพลกองทัพบก และยังมีหลักสูตรทักษะพื้นฐานดิจิทัลเรียนรู้เท่าทันภัยไซเบอร์
สำหรับพุทธศาสนิกชน รัฐบาลได้จัดกิจกรรมสวดมนต์เจริญจิตตภาวนาข้ามปีในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ทุกวัดทั้งในและต่างประเทศ และขอให้ทุกวัดประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรม พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้มอบการ์ดพระคติธรรม อวยพรปีใหม่ ประธานจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จำนวน 5,000 แผ่น และพระพุทธมนต์ให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด เจ้าคณะจังหวัด ใช้ในกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี
ขณะที่เอไอเอส มอบสิทธิ์ซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องเปล่าในราคาพิเศษ แบบไม่ต้องสมัครแพ็คเกจ และไม่ติดสัญญา อย่างไรก็ตาม สามารถตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดได้ผ่านทางเว็บไซต์ของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรม
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า “บัตรประชาชนใบเดียว รักษาได้ทุกที่” 4 จังหวัดนำร่องทั้ง 4 ภูมิภาคได้แก่ แพร่ ร้อยเอ็ด เพชรบุรี และนราธิวาส พร้อมแล้วร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่จะเปิดให้บริการครบวงจรเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2567 ให้กับประชาชน โดยวันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2567 จะเป็นวันเริ่มต้นหรือคิกออฟพร้อมกัน โดยใช้จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นจุดเปิดนอกสถานที่และเปิดระบบออนไลน์ไปยังอีก 3 จังหวัด คือ แพร่ เพชรบุรีและนราธิวาส
นอกจากนี้ของขวัญปีใหม่ของกระทรวงสาธารณสุขที่น.พ.ชลน่าน และบุคลากรในสังกัดกระทรวงที่มีความยินดีและเต็มใจอย่างยิ่งที่จะมอบให้พี่น้องประชาชนครั้่งนี้ และถือเป็นการปฏิรูประบบสุขภาพครั้งใหญ่ ใน 2 เรื่อง คือ
1. ปฏิรูประบบข้อมูลการให้บริการครั้งใหญ่ที่สุดที่ไม่เคยมีมาก่อน บัตรประชาชนใบเดียวสามารถเข้าถึงการบริการได้ ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว เป็นการลดความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข
2. ขยายบริการที่เป็นนวัตกรรมการอำนวยความสะดวก ในการรับบริการของประชาชน ทั้งนี้หน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญเพื่อขับเคลื่อนนโยบายให้ประสบความสำเร็จ คือ สำนักงานหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือสปสช. ซึ่งมีสำนักงานเขตในภูมิต่างๆจะร่วมมือกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและอำเภอ
ย่างไรก็ตาม น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ฝากแสดงความชื่นชมและส่งกำลังใจไปยังบุคลากรทุกคน ทุกส่วนที่จะร่วมกันมอบสิ่งดีๆ ให้กับประชาชน โดยเฉพาะการประชุมระดับชาติด้านหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของไทย 2566 เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้ออกแถลงการณ์ 12 ข้อ ที่ประกาศจะ “ทำทันที” ในการยกระดับและขับเคลื่อนระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 1 ใน 12 ข้อของแถลงการณ์ คือการสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ประสบการณ์ร่วมกับประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ นางสาวตรีชฎา กล่าว
ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานพาณิชย์สั่งลุย!…ลดราคา New Year Mega Sale 2024 พร้อมด้วย นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์, นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและพันธมิตรภาคเอกชน ที่ฮอล์ 9-10 ศูนย์การแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี
นายภูมิธรรม กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ตั้งใจมอบของขวัญจากใจของกระทรวงฯ มอบ “ใจถึงใจ” ให้พี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ต่อยอดนโยบายของรัฐบาล เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนให้มีความสุข ภายใต้มาตรการ 4 เพิ่ม ได้แก่
1. เพิ่มอาชีพ จากนโยบายรัฐบาลที่มุ่งแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมการรองรับและผลักดันให้พี่น้องประชาชน SMEs ที่เป็นคนตัวเล็กเหล่านี้ เมื่อปลดหนี้นอกระบบแล้ว ได้มีโอกาสลืมตาอ้าปาก มีช่องทางทำมาหากินเพิ่มขึ้น โดยเตรียมลดแพ็กเกจแฟรนไชส์ให้สูงสุด 30% อาทิ แฟรนไชส์ร้านอาหาร ตลอดจนจะมีเจ้าหน้าที่ไปช่วยดูแลทั้งกระบวนการดำเนินธุรกิจให้เกิดความเป็นธรรม
2. เพิ่มทักษะ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จึงได้เตรียมหลักสูตรสำคัญและจำเป็นแก่ SMEs ทุกท่าน ตลอด 3 เดือน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย อาทิ หลักสูตรเพิ่มศักยภาพด้านการบริหารจัดการธุรกิจอย่างครบวงจรกับ DBD Academy (e-Learning) เช่น การเพิ่มทักษะในการทำงบดุลบัญชี, การคำนวณต้นทุน, การพัฒนาทักษะการค้าออนไลน์ โดยออกหนังสือรับรองได้ทันที ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 30 พฤศจิกายน 2567 ส่วน SMEs ที่สนใจด้านการส่งออกกระทรวงฯ ได้เตรียมหลักสูตรสำคัญมากมายทั้ง การพัฒนาผู้ส่งออกให้สอดคล้องกับบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป จัดกิจกรรมบูธ FTA Center ที่ให้ความรู้ด้านการใช้ประโยชน์จาก FTA ตั้งแต่วันที่ 18 - 28 ธันวาคม 2566
3. เพิ่มโอกาส สำหรับ SMEs ที่ทำธุรกิจร้านอาหาร, คาเฟ่, สปา, โรงแรม, รีสอร์ท สามารถใช้ลิขสิทธิ์เพลงภายใต้ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บลิขสิทธิ์ที่มีเพลงมากกว่า 10 ล้านเพลง โดยสมัครผ่าน บริษัท โฟโนไรท์ (ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อขอรับสิทธิ์ในการใช้เพลงฟรีเป็นเวลา 3 เดือน พร้อมทั้งมอบส่วนลด 50-55% เป็นเวลา 1 ปี เมื่อต่ออายุการใช้งาน
นอกจากนี้ ยังขยายระยะเวลาการให้บริการต่าง ๆ ของกระทรวงฯ อาทิ เปิดให้บริการออกใบอนุญาตและหนังสือรับรองการส่งออก-นำเข้าสินค้า ในวันที่ 29 ธันวาคม 2566, บริการรับจดทะเบียนนิติบุคคลและออกหนังสือรับรอง ในช่วงเวลา 16.30-17.30 น. ระหว่างวันที่ 18-22 ธันวาคม 2566 อีกทั้งยังลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 –31 ธันวาคม 2569 ในจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา สตูล
4. เพิ่มความสุข สำหรับมาตรการช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ซึ่งเป็นมหกรรมที่ประชาชนรอคอยและเป็นโอกาสแก่พี่น้องประชาชน ได้เข้าถึงแหล่งผลิตสินค้าจากผู้ผลิตโดยตรง เพื่อช่วยลดรายจ่ายแล้วยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรายใหม่ๆ ได้มีช่องทางการเพิ่มรายได้และเพิ่มโอกาสของคนตัวเล็กๆ อีกจำนวนมาก ในปีนี้กระทรวงพาณิชย์ได้จัดงาน “พาณิชย์สั่งลุย!…ลดราคา New Year Mega Sale 2024” ขึ้นทั่วประเทศ ลดสูงสุดถึง 82% เริ่มตั้งแต่ 15 ธันวาคม 66 ถึง 15 มกราคม 67 เป็นเวลา 1 เดือน
โดยครั้งนี้ พิเศษอย่างยิ่ง เพราะนอกจาก พี่น้องประชาชนจะได้เลือกซื้อสินค้า ของใช้ อุปโภค บริโภค ที่จำเป็น ที่มาจากผู้ผลิตตั้งแต่รายเล็กถึงรายใหญ่รวมกันมากกว่า 390 ราย สินค้ากว่า 40,000 รายการ แล้วยังมีธุรกิจบริการมาร่วมอีกกว่า 1,180 รายการ ไม่ว่าจะเป็นบริการทางการแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์, แฟรนไชส์, บริการขนส่งและโลจิสติกส์, ที่พัก, ร้านอาหาร, การเดินทาง, อุปกรณ์ยานยนต์และซ่อมบำรุงรถยนต์, บัตรเครดิต, อินเตอร์เน็ต, อสังหาริมทรัพย์ และประกันภัย เป็นต้น
นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับ E-commerce และ Food delivery ชั้นนำ อาทิ Shopee, Lazada, Robinhood, Lineman, Foodpanda, Grab, AirasiaSuperapp, Kerry, Jatujak mall, Thailand postmart รวมทั้งลดราคาข้าวสารเพื่อประชาชน ขององค์การคลังสินค้า และอื่น ๆ อีกจำนวนมาก
พร้อมกันนนี้ นายภูมิธรรม กล่าวอวยพรด้วยว่า “ขออวยพรให้ทุกท่านมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ให้หมดทุกข์หมดโศกหมดโรคหมดภัย ขอให้มีอนาคตที่สดใสก้าวข้ามไปสู่ความหวังใหม่ที่จะเกิดขึ้นในชีวิตทุกท่านทุกคน”
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ระบุเพิ่มเติมว่า สำหรับของขวัญปีใหม่ของกระทรวงพาณิชย์ผู้ที่สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่าน www.moc.go.th และที่ Facebook: กระทรวงพาณิชย์ได้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดค่าครองชีพให้แก่พี่น้องประชาชนสูงถึง 4,000 ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่า 12,000 ล้านบาท สำหรับกลุ่ม SMEs และคนตัวเล็กลดค่าใช้จ่ายได้ 1,656 ล้านบาท มี SMEs ได้ประโยชน์มากกว่า 6,000 ราย และที่สำคัญจะสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพใหม่ได้มากกว่า 20,000 ครัวเรือน
โดย”พาณิชย์สั่งลุย!…ลดราคา New Year Mega Sale 2024” ที่จัดขึ้นที่ ฮอล์ 9-10 ศูนย์การแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 24 ธันวาคม 2566 นี้ เป็นเวลา 5 วัน ซึ่งมีสินค้าจาก 3 กลุ่มสำคัญ ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค บริการ และค้าออนไลน์ กว่า 41,267 รายการ มาลดสูงสุดถึง 82%