17 ธันวาคม 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้หน่วยงานภายใต้กระทรวงมหาดไทย เตรียมมาตรการที่จะเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ขณะนี้ได้ผ่านขั้นตอนการหารือระดับหน่วยงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เตรียมนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบรายละเอียด และเริ่มดำเนินมาตรการต่อไป
“หน่วยงานภายใต้กระทรวงมหาดไทย ทั้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ได้สรุปมาตรการที่ส่งมอบเป็นของขวัญปีใหม่เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้พี่น้องประชาชนรวมทั้งหมด 18 มาตรการ จาก 13 หน่วยงาน บางมาตรการหน่วยงานได้เริ่มดำเนินการแล้ว และอีกหลายมาตรการจะเริ่มตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นไป" น.ส.ไตรศุลี กล่าว
สำหรับตัวอย่างมาตรการที่กระทรวงมหาดไทยจะเสนอต่อ ครม. อย่างเช่น มาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ลดการก่อหนี้นอกระบบ โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ดำเนินการผ่านสถานธนานุบาล หรือโรงรับจำนำ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 261 แห่ง ดำเนินการตั้งแต่ 1 ม.ค.-31 มี.ค. 67 โดยกรณีที่ใช้บริการเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท จะไม่คิดดอกเบี้ยใน 3 เดือนแรก หลังจากนั้นคิดร้อยละ 0.25 ต่อเดือน ส่วนเงินต้นเกิน 5,000 บาท จะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน
การประปานครหลวง (กปน.) จัดโครงการตู้น้ำดื่มสะอาดเพื่อชุมชน 72 ตู้ ติดตั้งในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการและนนทบุรี ตั้งแต่เดือน ม.ค.67 เป็นต้นไป เป็นการมอบของขวัญให้ประชาชนและร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา โดยจะเป็นตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญในราคา 2 ลิตรต่อ 1 บาท และแบ่งรายได้จากการจำหน่ายน้ำให้เป็นรายได้ของชุมชนด้วย
นอกจากนี้ กปน. และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ได้มีโครงการขยายเวลางดตัดน้ำประปา 3 เดือน จากเดิม 2 เดือน สำหรับประชาชนที่ใช้น้ำประเภทบ้านพักอาศัย ซึ่งมียอดรวมของใบแจ้งค่าน้ำต่อเดือนไม่เกิน 150 บาท/เดือน สามารถค้างค่าน้ำได้ไม่เกิน 3 เดือน (3 รอบบิล) โดย กปน. และ กปภ. จะไม่งดการใช้น้ำ ดำเนินการระหว่าง พ.ย. 66-ม.ค. 67
การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้เริ่มมาตรการของขวัญปีใหม่ มาตั้งแต่เดือน พ.ย. 66 คือการขยายระยะเวลางดจ่ายไฟฟ้า สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่มีค่าไฟไม่เกิน 300 บาทต่อเดือน โดยขยายวันครบกำหนดชำระค่าไฟฟ้าจากเดิม 1 เดือนเป็น 3 เดือน ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือน พ.ย. 66 - พ.ย. 67 ซึ่งมาตรการนี้ครอบคลุมประชาชน 7.6 ล้านราย แยกเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าของ กฟน. 600,000 ราย และ กฟภ. 7 ล้านราย
ด้านกรมการปกครอง ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน ThaID ต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 67 จะมีการเพิ่มฟังก์ชันใหม่ เป็นบริการแจ้งย้ายทะเบียนบ้านและคัดรับรองเอกสารทางทะเบียน 3 เอกสาร ได้แก่ แบบรับรองรายการบุคคล (ทร.14/1) แบบรับรองรายการประวัติบุคคล (ทร.12/2) และแบบรับรองการเกิด(สูติบัตร) (ทร.1/ก) และตั้งแต่เดือน ก.พ. เป็นต้นไป จะเพิ่มเติมการแสดงเอกสารบนแอปพลิเคชันอีก 3 เอกสาร ได้แก่ สูติบัตร ทะเบียนสมรส ทะเบียนการหย่า
จากปัจจุบันสามารถแสดงได้ 2 เอกสารคือ บัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้าน นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงงานทะเบียนทั่วประเทศซึ่งจะมีบริการใหม่ๆ ทันสมัยและรวดเร็วมอบให้แก่ประชาชนตั้งแต่ปีใหม่ 67 เป็นต้นไปด้วย
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายนายอนุทิน ที่ให้หน่วยงานภายใต้กระทรวงฯ ดำเนินกิจกรรมที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้ประชาชน ตั้งแต่ปีใหม่ไปถึงเดือน มี.ค.67 กรุงเทพมหานคร จะจัดโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบสร้างสรรค์ เพื่อคนกรุงเทพฯ, กรมพัฒนาชุมชน จะเพิ่มช่องทางการขายให้ผู้ประกอบการสินค้าชุมชน ผ่านโครงการ Shop ชุมชน ลดทั่วไทยผ่าน Click ชุมชน โครงการ OTOP Giftset: กระเช้าปีใหม่ คนไทยร้องว้าว, องค์การตลาด จัดโครงการสร้างรายได้ กระจายโอกาสให้ชุมชนและเกษตรกร
พร้อมกันนี้ เพื่อดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น องค์การจัดการน้ำเสียได้มอบหลายโครงการเป็นของขวัญปีใหม่ ได้แก่ มอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมและลานออกกำลังกาย ณ ศูนย์บริหารจัดการคุณภาพน้ำ เทศบาลเมืองแพรกษา จ.สมุทรปราการ มอบแหล่งเรียนรู้พันธุ์น้ำจืด ณ ศูนย์บริหารจัดการคุณภาพน้ำ ต.ลำโพ จ.นนทบุรี พร้อมกับมอบพื้นที่สีเขียวในศูนย์บริหารจัดการคุณภาพน้ำทุกศูนย์ทั่วประเทศ มอบแหล่งเรียนรู้พันธุ์ปลาน้ำจืด
ขณะที่ กรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เฝ้าระวังผลกระทบภัยแล้งต่อประชาชนทั่วประเทศ โดยตั้งแต่ปีใหม่ไปจนถึงเดือน พ.ค. 67 ดำเนินโครงการมหาดไทยเติมน้ำ เติมสุข บำบัดทุกข์ ลดภัยแล้ง โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1-18 จะลงพื้นที่สำรวจและกำหนดพื้นที่ประสบปัญหา แล้วจัดเครื่องมือ เครื่องจักร อาทิ เครื่องสูบน้ำ รถสูบส่งน้ำ ระยะไกลเพื่อสูบน้ำจากแหล่งที่มีปริมาณน้ำมากไปยังแหล่งที่มีน้ำเหลือน้อย เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งต่อไป
ขณะที่ในวันนี้(17 ธ.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ติดตามสถานการณ์พายุฝน เข้าพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องจากมีความห่วงใยในสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ที่มีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะจ.ยะลา นราธิวาส ปัตตานีและสงขลา โดยได้ประสานงาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะ เลขาธิการพรรค, นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.เขต 3 จ.นราธิวาส, นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.เขต 2 จ.นราธิวาส เข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
พร้อมติดตามสถานการณ์และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเฝ้าระวัง และให้ความช่วยเหลือ ผ่านทีมงานสส.ในพื้นที่พปชร.อย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้(17ธ.ค.) สส.สัมพันธ์ และสส.อามินทร์ ได้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดและเข้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องเตรียมระดมทีมเจ้าหน้าที่ ส่งถุงยังชีพ เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับพี่น้องประชาชนในจ.นราธิวาส พร้อมสอบถามปัญหาความเดือดร้อน เพื่อนำไปสู่การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป