12 ธันวาคม 2566 กลายเป็นเสียงที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก พร้อมกับถูกตั้งคำถาม ต่อระเบียบกรมราชทัณฑ์ที่ออกมาล่าสุด ซึ่งเสมือนเป็นการเอื้อประโยชน์ให้โดยเฉพาะกับ "นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี
โดย "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า กรณีที่กรมราชทัณฑ์ออกคำสั่งให้สามารถคุมขังนอกเรือนจำนั้น ส่วนตัวไม่ทราบเรื่อง และก็เป็นหน้าที่กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม และไม่เกี่ยวกับตน
ขณะที่ สื่อมวลชนได้พยายามสอบถามนายกฯ ว่าทำอย่างไรให้ประชาชนมั่นใจกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย โดยนายเศรษฐา ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนเดินขึ้นรถไปรับหนังสือขอบคุณจากผู้เลี้ยงสุกรที่แก้ปัญหาเรื่องหมูเถื่อน
ด้าน "น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การรับกำหนดการพักโทษของนายทักษิณ ที่จะครบกรอบและจะต่อขยายเวลาในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ หรือจะใช้สิทธิ์ตามประกาศระเบียบของกรมราชทัณฑ์การคุมขังนอกเรือนจำนั้น จะต้องดูหลักเกณฑ์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่ากฏเกณฑ์รายละเอียดเป็นอย่างไร โดยวันนี้ (12ธ.ค.) ขอเน้นเรื่องซอฟต์พาวเวอร์
ขณะที่ "พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง" รมว.ยุติธรรม ตอบคำถามถึงเรื่องนี้กับสื่อมวลชนเพียงสั้นๆ ว่า เป็นไปตามกฎหมายกรมราชทัณฑ์ โดยมีปลัดกระทรวงยุติธรรมคอยกำกับดูแล ซึ่งเป็นการออกระเบียบตามกฎหมายราชทัณฑ์ ซึ่งในการพิจารณาทั้งหมด จะไม่เอาตัวบุคคลมาเป็นตัวตั้ง และยึดตามหลักปฎิบัติตามกฎหมายกรมราชทัณฑ์
อย่างไรก็ตาม นักโทษที่อยู่ในเรือนจำขณะนี้ มีทั้งนักโทษระหว่างการพิจารณาคดีและนักโทษเด็ดขาด ซึ่งในกฎหมายกรมราชทัณฑ์ที่ออกมาเมื่อปี 2560 ได้กำหนดให้ผู้ต้องขัง มีสถานที่ควบคุมภายนอกเรือนจำ ซึ่งเป็นการติดคุกเหมือนเดิม แต่ในการพิจารณาอนุญาต เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการ ซึ่งจะมีตัวแทนจากศาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมอยู่ด้วย
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี ยังปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่า นายทักษิณ เข้าเงื่อนไขของระเบียบฉบับดังกล่าวหรือไม่ ก่อนจะเดินออกจากวงสัมภาษณ์ในทันที
ด้าน "นายสมศักดิ์ เทพสุทิน" รองนายกฯ ในฐานะอดีต รมว.ยุติธรรม ชี้แจงว่า กรณีที่กรมราชทัณฑ์ ออกระเบียบให้ขังนักโทษนอกเรือนจำได้ ตามกฎกระทรวงที่ออกตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจาก ในปี 2560 มีการออกพ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ซึ่งมีเรื่องการคุมขังนอกเรือนจำอยู่แล้ว จึงต้องมีการออกระเบียบเพื่อให้ครบตามขั้นตอน และสามารถใช้กฎหมายได้อย่างครบถ้วน
ส่วนนายทักษิณ จะได้ประโยชน์จากระเบียบใหม่นี้หรือไม่นั้น ตนไม่ได้ติดตามรายละเอียดของระเบียบดังกล่าว ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการปูทางเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่สมัยเป็นรมว.ยุติธรรมนั้น ส่วนตัวยืนยันไม่จริง เพราะกฎหมายกรมราชทัณฑ์ มีตั้งแต่ ปี 2560 ตนจึงต้องออกอนุบัญญัติในทุกมาตรา เพื่อประโยชน์การบริหารจัดการ และตนไม่ได้ลงในรายละเอียด ซึ่งผู้ที่จะตัดสินว่านายทักษิณ จะเข้าเงื่อนไขของระเบียบดังกล่าวหรือไม่ อยู่ที่กระทรวง และเจ้าหน้าที่
ด้าน "นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การที่ระเบียบดังกล่าวได้ประกาศ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมานั้น ส่วนตัวขอถามนายเศรษฐา กับ รมว.ยุติธรรม ว่า ปล่อยให้กรมราชทัณฑ์ลักไก่ออกระเบียบให้นักโทษไปติดคุกที่บ้านเพื่อรองรับนักโทษชั้นพิเศษได้อย่างไร เพราะถ้าทำได้ต่อไปคำพิพากษาศาลสถิตย์ยุติธรรมก็ไม่มีความหมาย
"ศาลสั่งตัดสินจำคุกไม่ต้องสนใจ เพราะกรมราชทัณฑ์สั่งให้ไปติดคุกนอนเสวยสุข อยู่กับบ้านได้ แล้วคุกจะมีไว้ทำไม มีไว้ขังคนจน กับคนไม่มีอำนาจเท่านั้นหรือ และถ้าจะบอกว่าไม่ขอแทรกแซงกระทรวงยุติธรรมหรือกรมราชทัณฑ์ แล้วกรณีขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ มีไตรภาคีที่เป็นองค์กรตามกฎหมายดูแล เขามีมติตามกฎหมายแล้ว ทำไมไปสั่งให้เขาทบทวน เรื่องนี้ถ้านายกฯ ไม่ทำอะไร ก็จะมีคำถามว่าจะมีนายกฯไว้ทำไม มีไว้ดูแลประชาชนหรือมีไว้ดูแลนักโทษเทวดา" นายจุรินทร์ กล่าว