
30 พฤศจิกายน 2566 ประเด็นการแต่งตั้งโยกย้าย "พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล" จากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ สู่เก้าอี้รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่าอาจเกี่ยวข้องกับการจับ "หมูเถื่อน" ที่กำลังระบาดหนักอยู่เวลานี้ และกลายเป็นเรื่องที่ถูกตั้งคำถามและจับตาไปยัง "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง
ล่าสุด นายเศรษฐา ได้ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ โดยเฉพาะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ที่ตนเน้นย้ำมาตลอด ไม่ใช่แค่เอา "หมูเถื่อน" มารับผิดทางกฎหมาย แต่เรื่องนี้ทำให้ผู้ประกอบการและรายย่อย ไม่สามารถประกอบกิจการได้ และวันหนึ่งหากจะกลับมาใหม่ ก็ต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นใหม่กันอีก ต้องห่วงเรื่องนี้ ตนก็ติดตามอย่างใกล้ชิด จะพยายามสาวถึงรายใหญ่ให้ได้
ส่วนเรื่องการย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI เพราะผลงานไม่เข้าเป้าหรือตรวจสอบแล้วไปเจอตอนั้น ซึ่งเรื่องเจอตอใหญ่ เชื่อข้าราชการทุกคนไม่มีใครกลัว ทุกคนพยายามปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ ทำงานเพื่อประชาชน อย่างสุดความสามารถ
"การย้ายอธิบดีดีเอสไอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อาจใช้คนไม่ถูกกับเนื้องานมากกว่า ซึ่งตัวรัฐมนตรีก็ได้แถลงชี้แจงไปแล้ว ส่วนเรื่องไปเจอตนแล้วย้าย แล้วไม่ทำต่อ อย่าไปคิดอย่างนั้น ไม่มีแน่นอน ผมไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้แน่นอน" นายเศรษฐา กล่าว
เมื่อถามว่า ไม่มีกระแสการเมืองใช่หรือไม่ เพราะมีคนพยายามแทรกตรงนี้เข้ามา นายเศรษฐา กล่าวว่า ถ้าถามว่าเป็นการเมืองที่นายกฯ เข้าไปก้าวก่ายหรือไม่ ตอบเลย ไม่ใช่ ไม่มีแน่นอน แต่ถ้าการเมืองที่บอกว่ารัฐมนตรีเป็นคนไปย้ายใช่หรือไม่ ก็ต้องบอกว่าใช่ รัฐมนตรียุติธรรมเป็นคนย้าย ย้ายไปทำเรื่องของนโยบาย และก็หาคนที่เหมาะสมมาทำแทน แต่การที่จะมาทำต่อเรื่องนี้ ก็เป็นเรื่องใหญ่เหมือนกัน กลับไปตนก็จะเรียกคุย ว่าถึงไหนแล้ว
สำหรับคนที่จะมานั่งอธิบดีดีเอสไอ จะต้องเป็นคนที่นายกฯหาเองหรือไม่นั้น เรื่องนี้ตนก้าวก่ายไม่ได้ เป็นเรื่องของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อย่าพูดเรื่องคน พูดเรื่องความดีกว่า ความ คือ เรื่องของผลงาน ผลสำเร็จของเรื่องที่ต้องจัดการ ไม่ใช่แค่เรื่องหมูเถื่อนอย่างเดียว เรื่องเนื้อเถื่อนก็เริ่มมาแล้ว แพะเถื่อนก็เริ่มมาแล้ว เอาเป็นมีอีกหลายคดี ที่ต้องสะสางกันไป มิฉะนั้นความมั่นใจของผู้ประกอบการและนักลงทุนก็จะมีปัญหา
อนึ่ง ที่ประชุม ครม. ได้มีมติเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
โยก"สุริยา"หวังให้มาฟื้น ป.ป.ส. ชี้ใครนั่งดีเอสไอคนต่อไปมีกระบวนการเลือก
ขณะที่ "พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง" รมว.ยุติธรรม แถลงที่ทำเนียบรัฐบาล โดยย้ำว่า พ.ต.ต.สุริยา เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งหากมองเรื่องความผูกพันกับตน เป็นสองคนด้วยซ้ำที่มาอยู่กรมสอบสวนคดีพิเศษพร้อมตน ทั้งนี้ เนื่องจากมีตำแหน่งรองปลัดรองปลัดกระทรวงยุติธรรมว่างอยู่ และตนต้องการให้มาแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งพ.ต.ต.สุริยา เคยอยู่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นิติวิทยาศาสตร์ และ ป.ป.ส.
"ซึ่งปัญหาใหญ่ใน 1 ปี จะแก้เรื่อง ป.ป.ส. ขอให้ไม่ต้องเป็นห่วงคดีที่ดีเอสไอ เดี๋ยวท่านจะได้เห็น เราจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา บนพื้นฐานมืออาชีพ และความเชี่ยวชาญ เป็นดีเอสไอที่ทำงาน เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง มีความเข้มแข็งทางจิตใจและร่างกาย โดยใช้หลักนิติธรรมที่มีกฎหมาย ไม่ใช้อิทธิพลเป็นใหญ่ ใครทำผิดต้องได้รับผิดอย่างตรงไปตรงมา แม้แต่คดีหมูเถื่อน ถือเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่มาทำลายความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งเราต้องสอบเป็นองค์กรอาชญากรรม มีความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งความผิดฐานฟอกเงินเป็นความผิดสองประเทศ ต้องทำอย่างตรงไปตรงมา ขอไม่ต้องห่วงจะไปช่วยเหลือใคร พูดโดยพยานหลักฐานไม่ได้พูดโดยคน" รมว.ยุติธรรม ระบุ
ส่วนจะแต่งตั้งใครมาเป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษแทนนั้น ยืนยันว่าตรงนี้มีกระบวนการอยู่แล้ว ยังไม่ได้กำหนดว่าเป็นใคร เพราะในกรม ยึดความเชี่ยวชาญ ทุกคนที่ผ่านกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะมีเกียรติศักดิ์ และยืนยันไม่ใช่สำนักงานตำรวจแห่งชาติสอง แต่จะมาทำเรื่องที่เสริมกับตำรวจ