svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"รมว.กลาโหม" ต้อนรับ 130 คนไทย ชุด 4 กลับสู่มาตุภูมิ อีก 6 พันคนภายในต.ค.นี้

16 ตุลาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"รมว.กลาโหม" ต้อนรับ 130 คนไทย ชุด 4 กลับสู่มาตุภูมิ ระบุ คาดภายในสิ้นเดือนนี้จะนำแรงงานกลับได้ 6,000 คน เผย แผนสำรองหากเกิดวิกฤต

16 ตุลาคม 2566 เมื่อเวลา 06.50 น. เครื่องบิน แอร์บัส 340-500 ของกองทัพอากาศ เดินทางจากอิสราเอลนำแรงงานไทย มาถึงที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง หลังเดินทางไปรับแรงงานผู้อพยพชาวไทย จากประเทศ อิสราเอล เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา และกลับออกจากสนามบินนานาชาติ เบน กูเรียน อิสราเอล ในเวลา 19.27 น. ตามเวลาในประเทศไทย

โดยในเที่ยวบินนี้ มีผู้โดยสารจำนวน 130 คน เป็นผู้ชาย 127 คน ผู้หญิง 2 คนและ เด็ก 1 คน และมีแรงงานไทย 128 คน ส่วนอีก 2 คน เป็นครอบครัวของเจ้าหน้าที่สถานทูต และในเที่ยวบินนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บแขนหัก 1 คน และมีอาการไข้หวัด4 คน

เมื่อเครื่องบินมาถึง แรงงานได้เดินเรียงแถลงลงจากเครื่องบิน และเข้าไปยังห้องรับรอง เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสุขภาพ ขั้นตอนของตรวจคนเข้าเมือง และขั้นตอนของกระทรวงแรงงาน เพื่อให้คำแนะนำในการยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยา โดยนายสุทธิภัทร แสนซุ้ง เป็นคนแรกที่เดินลงมาจากเครื่อง เพราะเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บ แขนหัก

\"รมว.กลาโหม\" ต้อนรับ 130 คนไทย ชุด 4 กลับสู่มาตุภูมิ อีก 6 พันคนภายในต.ค.นี้

  • ภารกิจสมบูรณ์แรงงาน 130 คนถึงมาตุภูมิ

ทั้งนี้ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงเสนาธิการทหารอากาศ มาร่วมให้การต้อนรับ โดยนายสุทิน กล่าวว่า วันนี้(16 ต.ค.) เป็นการปฏิบัติภารกิจในรอบแรกของกองทัพอากาศที่ไปรับคนไทยกลับจากอิสราเอล เดิมทีเข้าใจว่าจะมียอดผู้โดยสารทั้งหมด 138 คน แต่วันนี้กลับมาจริง 130 คน ที่ไม่ได้มา 8 คน ก็กำลังตรวจสอบเหตุผลอยู่ แต่เข้าใจได้ว่าการเดินทางมาสนามบินเป็นอุปสรรค และคนไทยเองก็อาจจะลังเลอาจจะเปลี่ยนใจด้วย ทั้งนี้ในจำนวน 130 คน มีผู้เจ็บไข้ประมาณ 4 คน

โดยกองทัพอากาศจะมีแผนไปรับคนไทย อีก 5 เที่ยว เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. ไปจนถึงสิ้นเดือน คาดว่าจะสามารถรับได้ 800 คน ยังไม่รับของสายการบินเอกชน ซึ่งวันนี้ถือว่าเรียบร้อย บรรลุภารกิจโดยสมบูรณ์

\"รมว.กลาโหม\" ต้อนรับ 130 คนไทย ชุด 4 กลับสู่มาตุภูมิ อีก 6 พันคนภายในต.ค.นี้

  • อุปสรรคแรงงานไทย

ส่วนเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางมาขึ้นเครื่องบินกลับที่อิสราเอล ตอนนี้อุปสรรคส่วนใหญ่คือ สถานการณ์การสู้รบ ที่ยังมีการยิงจรวดโจมตีกันอย่างสม่ำเสมอ ทำให้การเดินทางจากพื้นที่ต่างๆมาสนามบินเป็นไปอย่างยากลำบาก

ส่วนปัญหาเรื่องหนังสือเดินทางเป็นปัญหาเล็กน้อย ทางสถานทูตเป็นผู้ที่จะดูแลออกให้ทดแทนแก้ปัญหาหน้างานอยู่แล้ว

ขณะที่การเจรจาเปิดพื้นที่ปลอดภัย สำหรับผู้ไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบ นายสุทิน ชี้แจงว่า ตอนนี้ดำเนินการอยู่ตลอด และทางกองทัพได้ส่งบุคลากรลงไปช่วยเหลือ แต่ต้องเข้าใจว่าสถานการณ์ตอนนี้ทางอิสราเอลเขาก็เคร่งครัด

  • คาด 6,000 คนกลับบ้านภานในสิ้นเดือนนี้

ทั้งนี้ คาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้ น่าจะนำผู้อพยพกลับมาได้ประมาณ 6,000 คน ถ้าเป็นไปตามแผนของรัฐบาลที่วางไว้ขณะนี้

\"รมว.กลาโหม\" ต้อนรับ 130 คนไทย ชุด 4 กลับสู่มาตุภูมิ อีก 6 พันคนภายในต.ค.นี้

จากนั้น นายสุทิน ได้กล่าวต้อนรับ พี่น้องแรงงาน ที่อยู่ระหว่างการนั่งรอขึ้นรถบัส โดยย้ำว่า รัฐบาลพยายามทุกทางที่จะช่วยเหลือ โดยส่วนของทหาร มีกองทัพอากาศ ใช้เครื่องบินแอร์บัสลำเดียว และเครื่องบินลำเลียง C130 อีก 5-6 ลำ ที่ได้เตรียมไว้ แต่อิสราเอลไม่อนุญาตให้บิน ทำให้เป็นเวลาหลายวันที่มีการแจ้งความประสงค์จะกลับ แต่เครื่องบินบินไม่ได้ จนเมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงขึ้นบินทันที โดยแอร์บัส ส่วน C130 ยังบินไม่สะดวก เพราะต้องเติมน้ำมัน 2-3 ครั้ง และเป็นเครื่องบินทหาร ถ้าจะไปบินผ่านน่านฟ้าไหนก็จะต้องขออนุญาต ดังนั้นรัฐบาลจึงใช้เครื่องบินพาณิชย์ช่วย จึงมีการลำเลียง 2 ระบบ แอร์บัส กับ เครื่องบินพาณิชย์ เพื่อให้เข้าใจว่ารัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้งคนไทย

  • แผนสำรองที่ 3 นำแรงงานกลับไทย

อีกทั้งขณะนี้มีแผนใหม่ว่า จะนำเครื่องบิน C130 ไปลำเลียงคนไทยออกมาประเทศที่ 3 ก่อน และหากสถานการณ์ตึงเครียดก็จะเสริมด้วยทางเรือ โดยเอากองทัพเรือไปจอดรับ แต่สถานการณ์ยังไม่ถึงขึ้นนั้น และยืนยันว่า การอพยพคนไทยไม่ได้ล่าช้า อุปสรรคส่วนใหญ่เกิดจากการเดินทางภายในประเทศอิสราเอลไม่ได้

ส่วนการค้นหาและติดตามคนไทยในพื้นที่เสียงภัยมีระบบติดต่อ ใช้ระบบในการสื่อสารหลายรูปแบบในการค้นหาตัวและมีประสิทธิภาพมากกับคนที่อยู่ในจุดเสี่ยงภัย จึงอยากให้ทุกคนมีกำลังใจกลับบ้านอยู่กับครอบครัวทำมาหากินต่อไป

  • รมว.กลาโหม เรียกขวัญแรงงาน “มาเด้อขวัญเด้อ”

พร้อมกล่าวต้อนรับพี่น้องแรงงาน เป็นภาษาอีสานว่า “มาเด้อขวัญเด้อ เอาขวัญมาบ้าน เบิ่ดทุกข์เบิ่ดโศรกแล้ว รอดตายแล้ว กลับบ้าน” เช่นเดียวกับการต้อนรับ พี่น้องชาวเหนือและชาวใต้ “รอดตายแล้วขอให้ขวัญดีมีกำลังใจต่อไป”

 ภายหลังจากที่แรงงานไทยเข้าสู่ขั้นตอนต่างๆเสร็จสิ้น ได้เดินทางขึ้นรถบัส ที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ จำนวน 5 คัน เพื่อไปยังสถานบันบำราษฎร์นราดูร เพื่อพบกับญาติที่มารอรับก่อนกลับภูมิลำเนา

  • ตัวแทนแรงงานไทย กล่าวถึงนาทีชีวิต

นายโชคชัย ยงโพธิ์ อายุ 33 ปี ชาวกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นตัวแทนแรงงานไทยในอิสราเอล ที่เดินทางมาในวันนี้ กล่าวถึงความรู้สึก ที่ได้กลับมาประเทศไทยว่า ตนผ่านนาทีชีวิตมาด้วยความเลวร้าย ขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจและขอแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย ซึ่งความยากลำบากในการเดินทางมาที่สนามบิน  ตนเองอยู่ในพื้นที่ซึ่งห่างจากฉนวนกาชาไม่ถึง 10 กิโลเมตร เขาจะเรียงลำดับจากพื้นที่อันตรายในการเดินทางมาที่ศูนย์อพยพ โดยใครที่อยู่ในพื้นที่ใกล้จุดอันตรายสุดก็จะได้เดินทางมาก่อน

ตนเห็นถึงนาทีที่กลุ่มฮามาส บุกเข้ามา แคมป์ที่ตนอาศัยอยู่ถูกยิงถล่ม พวกของตนได้แต่อยู่ในห้องอย่างเงียบๆ ถ้าเขาที่มีอาวุธครบมือเข้ามาถึงภายในห้อง ตนก็ไม่ทราบชะตาชีวิตว่าจะอยู่มาได้จนถึงวันนี้หรือไม่ วันที่ 7-8 ตุลาคม ปิดไฟทั้งแคมป์ได้แต่ล็อกห้องอยู่เงียบๆ โดยได้ update สถานการณ์ผ่านข่าวสารอยู่เรื่อยๆ 2 วันแรกแทบไม่ได้นอนคิดถึงหน้าพ่อหน้าแม่ ว่าเรามาเจอสถานการณ์อะไรอย่างนี้ พอมาจนถึงวันนี้ตนก็ดีใจมากๆ

สำหรับตนเพิ่งไปอยู่อิสราเอลได้ 1 เดือน ก็มาเจอสถานการณ์แบบนี้เลย ผ่านสถานการณ์แบบนี้มาและก็ได้คุยกับครอบครัวแล้ว จากนี้ก็คงไม่น่าจะกลับไปแล้ว กลับมาตั้งหลักที่บ้านเป็นการทำใจ หลายๆอย่างก็ยังไม่เข้าที่ สภาพจิตใจก็ค่อนข้างแย่  ที่ผ่านมาปัจจัยที่ทำให้ตนต้องเดินทางไปทำงานที่อิสราเอลก็เพราะเรื่องภาระหนี้สิน ราคาตอบแทนที่โน่นก็ดี เดือนแรกได้รับเป็นเงินเดือนกว่า 60,000 บาท โดยมีสัญญาทำงานกว่า 5 ปี 3 เดือน ซึ่งลักษณะงานเป็นการไปทำสวนมะเขือเทศ

logoline