15 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ เเรงงานไทยในอิสราเอล จำนวน 90 คน เดินทางจากสนามบินอู่ตะเภา มาถึงโรงแรม เอสซีปาร์ค เลียบด่วนทาวอินทาวน์เเล้ว ท่ามกลางครอบครัวที่มารอรับอย่างอบอุ่น โดยเมื่อมาถึงแต่ละครอบครัวร่ำไห้กอดกันด้วยความดีใจเพราะบางครอบครัวไม่ได้เจอกันมานานห้าปี
ขณะนี้อยู่ระหว่างรับการชดเชยจากกระทรวงแรงงาน และ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีศูนย์ MCATT สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงเเรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคม
ครอบครัวชาวชลบุรี กอดกัน ลูกร้องไห้โฮ เล่าว่า ฮามาส บุกเข้ามา ต้องช่วยสิ่งของดันประตูไว้ มีอาหารการกิน ต้องขึ้นไปอยู่บนหลังคา หนีเอาตัวรอด ในกลุ่มไม่ใครบาดเจ็บ อยากกลับบ้านอย่างเดียวไม่อยากกลับไปเเล้ว
" ปีที่เเล้วมีการยิง เเต่มีการเตือนล่วงหน้า เเต่ครั้งนี้ ไม่มีการเเจ้งเตือน ถือว่าการให้ความช่วยเหลือ รวดเร็ว ทุกคนที่ประสบปัญหาอยากกลับทุกคน เดินทางไปทำงานช่วงเศรษฐกิจ ไปหาเงินเพื่อครอบครัว "
แรงงานไทยคนดังกล่าว บอกอีกว่า ต้องขึ้นไปหลบบนหลังคา 3 วัน ขึ้นไปแอบกัน ไม่ได้กินข้าว ไม่ได้ขับถ่าย อยู่กันอย่างลำบาก จนมีทหาร เข้าไปช่วยออกมาได้ โดยไม่ได้ไม่เล่าให้เเม่ฟัง กลัวจะเป็นห่วง บอกเพียงว่าตัวเองปลอดภัยดี การตัดสินใจกลับครั้งนี้ ตัดสินใจเอง เเต่ทางบ้านก็อยากให้อยู่ แต่อยู่ก็ทำงานไม่ได้
ขณะอีกครอบครัวหนึ่งเจอกันครั้งเเรกในรอบ 6 ปี ได้เล่าให้ฟังถึงความรู้สึกและเรื่องราวที่เกิดขึ้น ว่า เห็นทั้งการกราดยิงกัน ศพเกลื่อนถนน อยู่อย่างหวาดระเเวง ไม่ได้หลับได้นอน ยิงกันตลอดเวลา จนอยากอพยพกลับไทย เพราะประสบการณ์ 6 ปีที่ผ่านมา เมื่อก่อนเเค่ยิงจรวด คิดว่ามันโหดร้ายมาก มันรุนเเรงขึ้น
ด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจปราการ รัฐมนตรีว่ากระทรวงเเรงงาน เปิดเผยว่า หลงจากนี้คนไทยทยอยจะกลับมา 137 คน ในสัปดาห์หน้า ไม่ต่ำกว่าวันละ200 คน หลังตากนั้นจะกลับวันละ400คน คาดจะกลับมากอย่างปลอดภัยทุกคน ส่วนคนไทยที่นังไม่ตัดสินใจกลับ เเต่หากมีวิกฤตก็เตรียมพร้อมที่จะเข้าไปอพยพ