svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

นายกฯ เผย มีเที่ยวบินอพยพคนไทยแล้ว 32 เที่ยว พร้อมรับ 5,700 แรงงานไทยกลับบ้าน

นายกฯ เผย มีเที่ยวบินอพยพคนไทยแล้ว 32 เที่ยว พร้อมรับ 5,700 แรงงานไทย สั่งทุกหน่วยงานระดมเครื่องบินอีก หวังอพยพให้จบภายใน ต.ค. เร่งทุกวิถีทางช่วยตัวประกัน มั่นใจยังปลอดภัย

15 ตุลาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการเป็นประธานการประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉินต่อสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล หรือศูนย์ Rapid Response Center : RRC โดยเพื่อติดตามสถานการณ์เหตุการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลาง ประเทศอิสราเอล โดยย้ำความสำคัญในการนำคนไทยออกจากอิสราเอลให้เร็วที่สุด

ซึ่งจากตารางเที่ยวบินนกแอร์ แอร์เอเชีย และการบินไทย รวมถึงสไปร์ทเจ็ทของอินเดีย จะไปรับคนไทยภายในสิ้นเดือนนี้ มีทั้งสิ้น 32 เที่ยวบิน สามารถรับคนไทยกลับประเทศได้ประมาณ 5,700 คน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะคนที่ประสงค์จะเดินทางกลับมีแล้วกว่า 7,500 คน และคาดว่า จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยจะใช้เที่ยวบินทั้งการบินตรงเทลอาวีฟ-กรุงเทพฯ และการเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศที่ 3 อิสราเอล ดูไบ จอร์แดน ไซปรัส แล้วค่อนบินต่อมายังประเทศไทย 

พร้อมยอมรับว่า ปัญหา และอุปสรรคในการอพยพคนไทยในอิสราเอล ยังมีปัญหาการนำคนไทยจากจุดสุ่มเสี่ยง มายังจุดพักคอยก่อนเดินทางกลับ และจำนวนเที่ยวบินที่จะไปรับได้ ซึ่งมีข้อเสนอให้ใช้เครื่องบินเพิ่มเติม เช่น แอร์บัส A-380 ที่เป็นเครื่องบิน 2 ชั้น สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 500 คน และจอดทิ้งไว้อยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

แต่การบินไทยได้แจงว่า เครื่องดังกล่าวจอดไว้นานแล้ว และจะต้องมีการซ่อมบำรุงก่อน ซึ่งต้องใช้เวลา จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปจัดหาเช่าเครื่องบินที่สามารถทำได้ และยืนยันว่า ทุกหน่วยงานพยายามทุกช่องทางในการช่วยเหลือเพิ่มเติมในการเพิ่มเที่ยวบิน เพื่อนำคนไทยกลับมาให้ทันภายในสิ้นเดือนนี้ทั้งหมด

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงการอพยพคนไทยในอิสราเอลอีกว่า จะต้องอพยพทางอากาศเพียงวิธีเดียว เนื่องจาก การอพยพทางเรือนั้น ท่าเรือของอิสราเอลได้ถูกปิดไปแล้ว โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเมลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ได้ทำงานเต็มที่ เพื่อนำแรงงานไทยกลับมาศูนย์พักคอยให้ได้ ประมาณวันละ 400 คน

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน 17 คนว่า ขณะนี้ ได้ดำเนินการทั้งช่องทางการทูต, ข่าวกรอง, การทหาร และภาคประชาสังคม หรือ NGOs ที่มีเครือข่ายอยู่ในประเทศต่าง ๆ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของไทยเอง ก็มีการพูดคุยทั้งกับปาเลสไตน์ และอิสราเอลขอให้คนไทยกลับออกมาได้โดยเร็วและปลอดภัยที่สุด โดยมั่นใจว่าขณะนี้ตัวประกันทั้งหมดยังปลอดภัย แต่ยังไม่ทราบว่า จะมีการปล่อยตัวเมื่อใด แต่ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญสูงสุด

ส่วนแรงงานไทยจะตกเป็นกลุ่มเป้าหมายของกลุ่มฮามาส เพราะเป็นแรงงานภาคการเกษตร และเป็นฐานการผลิตเสบียงอาหารที่สำคัญกับชาวอิสราเอลหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ยังมั่นใจว่า กลุ่มฮามาส ไม่ได้เจาะจงต่อกลุ่มแรงงานไทย และแรงงานไทย ก็ไม่ได้เป็นชาติเดียวที่อยู่ในอิสราเอล

"รัฐบาลไทย จะไม่เปลี่ยนแปลงท่าทีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะรัฐบาลไทยวางตัวเป็นกลาง ไม่ได้อยู่ในความขัดแย้ง" นายเศรษฐา ระบุ