15 ตุลาคม 2566 ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค ถนนประดิษฐ์มนูธรรม กทม. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังการต้อนรับกลุ่มแรงงานไทยในประเทศอิสราเอล 90 คน ที่เดินทางกลับมายังประเทศไทย ว่า วันนี้( 15 ต.ค.) แรงงานไทยได้เดินทางมาถึงอีก 90 คน และในวันพรุ่งนี้ (16 ต.ค.) เวลา 05.00-06.00 น. จะมีแรงงานเดินทางกลับมาเพิ่มอีก 137 คน โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ ลงที่สนามบินดอนเมือง นอกจากนี้จะมีการเดินทางกลับมาอีกบางส่วนโดยเครื่องบินพาณิชย์ ส่วนจำนวนนั้นจะมากน้อยอยู่ที่การจองตั๋ว
สำหรับแรงงานไทยที่เดินทางกลับมายังประเทศไทย โดยทางกระทรวงการต่างประเทศ ขอให้เก็บบิลไว้สำหรับเบิกค่าเดินทางกลับจากรัฐบาลได้
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อ ส่วนที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีความกังวลมาก คือ จะหาวิธีอย่างไร เพื่อให้ได้เครื่องบินเพิ่มมากขึ้น มากกว่าที่ได้มีการประสานเอาไว้ ซึ่งมีสายการบินนกแอร์ 2 ลำ แอร์เอเชีย 2 ลำ การบินไทย 1 ลำ และกองทัพอากาศ 1 ลำ ซึ่งขณะนี้สามารถเดินทางกลับมาได้ครั้งละประมาณ 200 คน
ทั้งนี้เนื่องจากมีปัญหาเรื่องพาสปอร์ตหล่นหาย ขณะหลบหนี กระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการเตรียมพาสปอร์ตสำรองไว้ 8,000 เล่ม เพื่อให้ทุกคนเดินทางกลับมายังประเทศไทยได้ หลังจากนี้ในช่วงต้นที่กลับมาได้เพียง 200 คน ซึ่งภายใน 3-4 วันจะสามารถนำแรงงานชาวไทยกลับมาถึงวันละ 400 คน
“ขณะที่เมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงได้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้ที่เคยอยู่ในประเทศอิสราเอล กลับไปช่วยเหลือเพิ่มอีก 5 คน และทางกระทรวงการต่างประเทศได้ส่งไปเจ้าหน้าที่ไปเพิ่มอีก 10 คน ผมจึงมั่นใจว่าทั้งในเรื่องของเอกสารหรือการเตรียมความพร้อมการอพยพจะมีความรวดเร็วขึ้น ทำให้เชื่อว่าผู้ลงทะเบียนทั้ง 7,000 คน จะสามารถกลับมาถึงประเทศไทยได้ทั้งหมดภายในต้นเดือน พ.ย.นี้” นายพิพัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้สำหรับแรงงานไทยที่ทำงานยังไม่ครบสัญญา และเดินทางกลับมาประเทศไทย ทางกระทรวงแรงงานพร้อมจะช่วยเหลือ ประสานงานกับทางเอเจนซี่ หรือนายจ้างที่ประเทศอิสราเอล หากเหตุการณ์สงบเรียบร้อย แล้วต้องการจะกลับไปทำงานใหม่ กระทรวงแรงงาน โดยเฉพาะปลัดกระทรวงแรงงานพร้อมจะสนับสนุน แต่หากไม่เดินทางกลับประเทศอิสราเอล ขอให้แจ้งเจตจำนงมา เพื่อให้ทางกระทรวงแรงงาน หาที่ทำงานใหม่ให้ในประเทศอื่น ส่วนรายได้จะมากกว่าเดิมหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนขอกลับมานั้น หากรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยขอให้แจ้งมาที่กระทรวงแรงงานได้อีก
“อยากฝากถึงเพื่อนๆชาวแรงงานไทย ที่กำลังดูข่าวอยู่ ขอให้หลบอยู่ในที่ปลอดภัย และเชื่อฟังทางการอิสราเอล ที่มีประกาศออกมาเป็นระยะ สำหรับผู้เสียชีวิตทางการอิสราเอล จะทำการชดเชยให้โดยจะดูแลภรรยาผู้เสียชีวิตโดยมอบเงินให้เดือนละประมาณ 35,000 บาท จนกว่าภรรยาจะแต่งงานใหม่ และมอบให้บุตรเดือนละประมาณ 11,000 บาท จนกว่าอายุ 18 ปี ส่วนแรงงานไทยผู้ที่บาดเจ็บจะมอบให้รายละ 15,000 บาท เสียชีวิต 40,000 บาท และเงินค่าทำศพอีก 40,000 บาท” นายพิพัฒน์ กล่าว
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อ คนที่อยากจะกลับไปใหม่อีกครั้ง กระทรวงแรงงานได้แจ้งนายกฯว่า หากใครยังทำงานไม่ครบสัญญาและอนาคตอยากกลับไปทำงานในต่างประเทศต่อ ขอให้สบายใจได้ กระทรวงแรงงานจะทำหน้าที่ประสาน เมื่อเหตุการณ์สงบจะนำท่านกลับไปในอิสราเอล หรือหางานในประเทศอื่นๆ ที่มีรายได้ใกล้เคียงหรือน้อยกว่าเดิมเล็กน้อย เพื่อให้ไปทำงานต่อ เพราะรัฐบาลเข้าใจว่าทุกคนที่ไปก็มีหนี้สิน ฉะนั้นหากประสงค์ก็ขอให้แจ้งกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานได้ ส่วนใครที่จ่ายค่าตั๋วเองก็ขอให้เก็บตั๋วไว้รัฐบาลจะรับผิดชอบดูแล
วันนี้ (15 ต.ค.) ใครเมื่อกลับมาแล้ว ยังไม่สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ แจ้งไว้ว่าหากใครยังไม่สะดวกเดินทางกลับก็แจ้งความประสงค์ น.ส.แพทองธาร จะดูแลเรื่องที่พักให้ในเบื้องต้น อย่างไรตนขอให้กำลังใจทุกคนและหากมีอะไรขาดเหลือก็ขอให้ประสานไปที่กระทรวงแรงงาน เพื่อให้การช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่า รัฐบาลเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะผู้สูญเสีย แต่ถึงอย่างไรก็ต้องให้กำลังใจกับคนที่อยู่ภายหลัง
เมื่อถามถึง แรงงานไทยที่เสียชีวิต และบาดเจ็บล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานแรงงาน กล่าวว่า จากที่ทราบรายงานล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีแรงงานไทยเสียชีวิตแล้ว 28 คน ถูกจับเป็นตัวประกันประมาณ 17-18 คน และได้รับบาดเจ็บ 16 คน ซึ่งต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่สูญเสียด้วย
“ผู้ที่เสียชีวิต และบาดเจ็บ เราต้องรอการพิสูจน์อัตลักษณ์จากทางการอิสราเอลก่อน เพื่อยืนยันตัวตนว่าเป็นใคร ชื่ออะไร มาจากประเทศใด โดยทางการอิสราเอลจะได้ช่วยเหลือเยียวยาต่อไป ตามหลักเกณฑ์ที่ผมได้กล่าวไปข้างต้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมยังไม่สามารถนำกลับมายังประเทศไทยได้ในทันที” นายพิพัฒน์ กล่าว