
เรื่องราวชีวิตของคนไทยในอิสราเอล นอกจากสถานการณ์การสู้รบ รวมถึงคืบหน้าและแนวทางการช่วยเหลือคนไทยยังมีเรื่องเล่าแบบ unseen ที่น่าสนใจอีกไม่น้อย
อย่างเช่นการทำงานและอยู่อาศัยท่ามกลางการสู้รบซึ่งมีอยู่เป็นระลอกๆ ไม่เคยมีช่วงไหนที่สงบสุขปลอดภัยจริงๆ ทำให้ในอิสราเอลมีสิ่งที่เรียกว่า “ห้องนิรภัย” หรือ “ตู้หลบภัย” ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่แตกต่างจาก “หลุมหลบภัย” ที่เราเคยรู้จักกัน
“ตู้หลบภัย” อิสราเอลเป็นอุปกรณ์ที่ทางการอิสราเอลเตรียมเอาไว้ให้พลเมืองและแรงงานของตน หลายคนอาจจะคิดว่าตู้หลบภัยไม่สามารถช่วยป้องกันอันตรายได้ แต่ความจริงแล้วตู้หลบภัยสามารถป้องกันอันตรายจากสะเก็ดระเบิดหรือลูกกระสุนปืนได้ จะไม่มีคนภายนอกเข้ามาทำอันตรายได้เลย เพราะผนังของตู้หลบภัยทำจากเหล็ก มีความหนาและแข็งแรง
มองดูภายนอกคิดว่าเป็นแค่ปูนฉาบเอาไว้ แต่ภายในจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มาหลบภัย เช่น แอร์ ตู้เย็น สัญญาณอินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์
คนที่เข้าไปหลบภัยสามารถใช้ชีวิตในห้องนี้ได้แบบปลอดภัย ภายในห้องจะเงียบมาก ไม่ได้ยินเสียงจากภายนอก ห้องนิรภัยนี้สามารถบรรจุคนได้จำนวนมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่จัดทำ บางตู้อยู่ได้ 5 คน บางตู้ก็มากกว่านั้น มีลักษณะเป็นห้อง แต่ละพื้นที่จะออกแบบตกแต่งไม่เหมือนกัน
สาเหตุที่ต้องทำตู้หลบภัยเอาไว้ตลอดตามเส้นทางสัญจร หรือตามที่พักอาศัย เป็นเพราะว่าที่อิสราเอลเกิดสงครามบ่อยแ ต่ครั้งนี้ถือเป็นสงครามที่หนักที่สุดและน่าจะยาวนาน
กฎเข้ม! ห้ามส่งข้อมูล-ถ่ายภาพ-บังคับเกณฑ์ทหาร
คนไทยในอิสราเอล เล่าว่า ภาวะสงครามที่ประเทศอิสราเอลเผชิญอยู่บ่อยๆ มักจะเกิดขึ้นในช่วงหลังวันละหมาดใหญ่ของทุกปี เพราะวันหยุดทางศาสนา จะหยุดรบกัน พอเลยวันหยุดก็จะรบกันต่อ แต่ปีนี้ต่างจากทุกปี คือมารบกันในช่วงที่มีการประท้วง
นโยบายของอิสราเอล คือจะไม่ค่อยเผยแพร่ข้อมูลภายในของตนเองออกสื่อ ไม่ว่าแขนงใด ประเทศอิสราเอลจะควบคุมสื่อใหญ่เอาไว้ทั้งหมด อย่างสงครามครั้งนี้ จริงๆ มีแรงงานไทยที่เห็นและอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ แต่ไม่มีใครกล้าเล่าเรื่องราวหรือเผยแพร่ภาพออกสื่อ เพราะมีกฎระเบียบต่างๆ ห้ามเอาไว้อย่างเข้มงวด ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกเนรเทศออกนอกประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าแรงงานไทยยังคงต้องการทำงานและใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเพื่อหาเงินส่งกลับบ้าน เนื่องจากค่าจ้างสูง หากเกิดปัญหาหรือถูกเนรเทศ จะหวนกลับไปทำงานที่นั่นอีกไม่ได้แล้ว
กฎหมายเรื่องการถ่ายภาพก็เข้มงวด เช่น ถ้าไปเล่นกับเด็กที่ไม่รู้จักแล้วไปถ่ายรูปลูกเขา หรือไปหยอกล้อกับเด็กโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ก็จะโดนเนรเทศทันที ซึ่งเรื่องเล่นกับเด็กมีคนไทยถูกเนรเทศมาหลายคนแล้ว
ส่วนเรื่องเทคโนโลยีที่ประเทศอิสราเอลค่อนข้างทันสมัย การประกอบธุรกิจหรืออาชีพต่างๆ จะไม่แข่งขันกันเอง เวลามีงานก็จะจัดภายในครอบครัวใช้ระบบผู้หญิงเป็นใหญ่ในบ้าน เรียกว่าวิถีชีวิตความเป็นอยู่แตกต่างกับประเทศไทยโดยสิ้นเชิง
แรงงานไทยในอิสราเอล เล่าให้ฟังอีกว่า บ้านเมืองเขาค่อนข้างเข้มงวดต่างจากประเทศไทย เช่น ผู้หญิงผู้ชายจะต้องรับราชการทหาร มีการบังคับให้พลเมืองอิสราเอลทั้งชายและหญิงทุกคนต้องเกณฑ์ทหาร ระยะเวลาการเกณฑ์จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเพศ อายุ หรืออาชีพ เช่น บุคคลนั้นเป็นแพทย์หรือทันตแพทย์ ก็อาจจะถูกเกณฑ์ในระยะเวลาแตกต่างจากอาชีพอื่น
ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะเห็นผู้หญิงแต่งเครื่องแบบเดินพกปืนในอิสราเอล และหากมีภาวะสงครามคนที่เคยรับราชการก็จะต้องรีบมารายงานตัว พร้อมออกรบภายใน 24 ชั่วโมง