svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

รวมคืบหน้าช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล ล่าสุดเสียชีวิต 18 สถานการณ์ยังรุนแรง

10 ตุลาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กต. เผย ตัวเลขไม่เป็นทางการ คนไทยเสียชีวิตจากเหตุรุนแรงในอิสราเอลเพิ่มเป็น 18 คน ขอกลับไทยเพิ่มเป็น 3,000 คน แจ้งข่าวดีมีไฟลท์บินเพิ่ม 19 ต.ค.นี้ หากไม่พอประสานเหมาลำพาณิชย์ทั้งในและนอกประเทศ

10 ตุลาคน 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล  นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ เปิดเผยว่า เอกอัครราชทูตไทยในอิสราเอล ได้รายงานสถานการณ์ล่าสุด ว่าขณะนี้ มีคนไทยแจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับ ประมาณ 3,000 คน และได้มีการรายงานข่าวดีเกี่ยวกับการอพยพคนไทยได้จำนวนมากขึ้น และในช่วงบ่ายของวันนี้ จะมีความชัดเจนเกี่ยวกับแผนการช่วยเหลือในเเต่ละวัน โดยในขณะนี้ มีแรงงานไทยในอิสราเอล ประมาณ 30,000 คน อยู่ในจุดที่มีความเสี่ยง 5,000 คน และทยอยอพยพออกมาจากพื้นที่เสี่ยงภัย

สำหรับการอพยพคนไทยออกจากประเทศอิสราเอล จะทำทุกวิถีทาง ทั้งการใช้เครื่องบินเหมาลำและเครื่องบินของกองทัพ เพื่อนำคนไทยกลับมาให้เร็วที่สุด โดยในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ จะเป็นเที่ยวบินแรก และวันที่ 19 ตุลาคม จะมีอีกหนึ่งเที่ยวบิน และระหว่างนั้นก็จะพยายามทำเพิ่มเติม ทั้งการประสานหาเครื่องบินพาณิชย์ของไทย และเครื่องบินทหาร 

จักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ

ทั้งนี้ต้องขอบคุณเอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศอิสราเอล ที่พยายามติดต่อหาทุกช่องทาง เครื่องบินของไทยได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือ ในเขตประเทศอิสราเอล ไม่ใช้เขตประเทศเพื่อนบ้าน ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยในช่วงบ่ายของวันนี้ จะมีการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว ทุกอย่างน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น ว่าจะมีผู้แจ้งความประสงค์กลับมาจำนวนมากน้อยเพียงใด และจะกลับมาได้ในช่วงเวลาใด

โดยความรุนแรงขณะนี้มีการขยายวงกว้าง เข้ามาใกล้กับสนามบิน จึงมีความเป็นห่วง และเมื่อวานนี้ได้มีการเจรจากับประเทศรอบๆ เพราะถ้าหากมีความจำเป็นต้องส่งเครื่องบินไป แต่ยอมรับว่าการเดินทางค่อนข้างลำบาก

รมช.การต่างประเทศ เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้มีคนไทยแจ้งความประสงค์กลับประเทศ 3,000 คน ส่วนที่ต้องการจะอยู่ต่อมีประมาณ  100 คน ซึ่งทั้ง 2 ส่วนมีทั้งแรงงานที่เดินทางไปอย่างถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย 

รวมคืบหน้าช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล  ล่าสุดเสียชีวิต 18  สถานการณ์ยังรุนแรง

เมื่อถามว่าได้มีการประสานช่วยเหลือแรงงานที่ถูกนายจ้างนำไปขายต่อหรือไม่ นายจักรพงษ์ ระบุว่าได้รับทราบรายงานแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากอิสราเอล 

ส่วนที่ประชาชนมีความกังวลและพยายามที่จะซื้อตั๋วเครื่องบินพาณิชย์กลับเองโดยไม่รอเครื่องรัฐบาลไปรับ จาะมีการดูแลค่าใช้จ่ายในส่วนนี้หรือไม่ นายจักรพงษ์ ระบุว่าทางเอกอัครราชทูตพยายามดูทุกไฟลท์บินคิดว่าน่าจะครอบคลุมทั้งหมด และจะมีการดูแลค่าใช้จ่ายเป็นกรณีไป 

ส่วนการรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมนั้น นายจักรพงษ์ ระบุว่าทางอิสราเอลยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ได้ จึงยังไม่สามารถยืนยันตัวเลขอย่างเป็นทางการ แต่จากการรายงานของนายจ้างอย่างไม่เป็นทางการพบว่าขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 18 คนแล้ว

ส่วนการเจรจาช่วยเหลือตัวประกันนั้นยังมีการเจรจาต่อเนื่อง พร้อมมีการพูดคุยกับเอกอัครราชทูตแต่ละประเทศ 

พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน

ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือแรงงานไทยจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ว่า ในวันที่ 11 ต.ค.ที่จะถึงนี้ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 15 คน จะเดินทางออกจากอิสราเอล โดยแบ่งเป็นสองเที่ยวบิน ได้แก่เที่ยวบินแรกในเวลา 10.35 น. จำนวน 10 คน และเที่ยวบินที่สองในเวลา 12.35 น. อีก 5 คน และทั้งหมดจะเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ในวันที่ 12 ต.ค.

ส่วนจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย ขณะนี้มีจำนวน 2,990 คน ซึ่งคงต้องรอทางรัฐบาลอิสราเอลตอบกลับว่า จะพร้อมรับเครื่องบินของทหารอากาศประเทศไทย เพื่อเดินทางเข้าไปรับแรงงานไทยได้เมื่อไหร่ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการไว้แล้วว่าหากพร้อม ก็ให้เตรียมเครื่องบิน ประกอบด้วย C130 จำนวน 6 ลำ และแอร์บัส A340 อีก 1 ลำ ในการไปรับ แต่หากมีภาวะฉุกเฉินเช่นนี้ จะต้องมีการหารือกับนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ว่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ หากจะเช่าเครื่องบินพาณิชย์เหมาลำจากอิสราเอล หรือเครื่องบินพาณิชย์สายอื่นๆ เพื่อความรวดเร็วในการพาแรงงานไทยกลับสู่ประเทศไทย ถ้าเหตุการณ์บรรเทาลง เราคงจะต้องสอบถามแรงงานไทยอีกครั้งว่า มีความต้องการกลับสู่ประเทศไทยอยู่หรือไม่ หากยืนยันว่าอยากกลับประเทศไทยตามเดิม กระทรวงแรงงานก็จะประสานเรื่องนี้ให้อีกครั้ง 

รวมคืบหน้าช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล  ล่าสุดเสียชีวิต 18  สถานการณ์ยังรุนแรง

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 9 ต.ค. อิสราเอลได้เคลื่อนย้ายแรงงานบางส่วนไปยังศูนย์อพยพที่ปลอดภัย ซึ่งเอกอัครราชทูต ประจำกรุงเทลอาวีฟ ได้เดินทางมาเยี่ยมที่ศูนย์อพยพ ซึ่งคงต้องดูสถานการณ์วันต่อวัน และได้มีการตั้งวอร์รูมเพื่อประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ ว่าในแต่ละชั่วโมงมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีแรงงานร้องเรียนมายังเพจต่างๆ ว่าแรงงานถูกนำไปขายต่ออีกทอดนึง นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แจ้งไปยังเอกอัครราชทูตประจำอิสราเอลแล้วว่า ให้ตรวจสอบเรื่องนี้เป็นการด่วน พร้อมประสานกับสถานทูตไทยในอิสราเอล ในช่วงที่เราเกิดความยากลำบาก เราคงต้องเร่งขอความร่วมมือไปยังอิสราเอล 

เมื่อถามว่า มีแรงงานบางส่วนแจ้งมาตามช่องทางที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ แต่กลับไม่ได้รับการช่วยเหลือ จะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เราเพิ่งได้รับข้อมูล โดยได้มีการสั่งการไปเมื่อช่วงเช้าของวันนี้แล้ว ขอเวลาดำเนินการถึงช่วงเที่ยงวันนี้ แล้วจะมีการแจ้งอีกครั้งหนึ่ง

รวมคืบหน้าช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล  ล่าสุดเสียชีวิต 18  สถานการณ์ยังรุนแรง

เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านได้เตือน และเสนอแนะว่า ควรมีการรองรับเรื่องงานให้แก่กลุ่มแรงงานดังกล่าวด้วย เนื่องจากมีความกังวล จนไม่ประสงค์จะกลับประเทศไทย นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ตนได้แจ้งไปตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่า กระทรวงแรงงานเราพร้อมที่จะรับเพื่อนๆ กลับจากอิสราเอล แต่ก็ยังมีเพื่อนๆ อีกหลายคนที่กังวลว่า กลับมาแล้วจะไม่ได้กลับไปทำงานอีก

โดยกระทรวงแรงงานได้ประชุม หารือ ว่าจะมีการประสานกับบริษัทนายจ้างว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้ เราขอแรงงานกลับไทยก่อน ส่วนการกลับไปอิสราเอลอีกครั้ง เราจะขอความกรุณาว่า เมื่อเหตุการณ์สงบจะขอเดินทางกลับไปที่เดิม ส่วนค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับไทย กระทรวงแรงงานเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ในส่วนของค่าใช้จ่ายกลับอิสราเอลเมื่อเหตุการณ์สงบ จะต้องหารือกับนายกรัฐมนตรีอีกครั้งว่า เราจะหางบจากที่ไหน

“สุดท้ายคงจะต้องของบจากนายกรัฐมนตรี เพราะเรื่องนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และเป็นสิ่งที่ทำให้เพื่อนๆ ที่เสียค่าใช้จ่ายไปแล้ว มีการเสียโอกาส เพราะฉะนั้น เราจะมอบโอกาสนี้คืนให้กับผู้ใช้แรงงานทุกคน ก็ต้องขอบคุณฝ่ายค้านที่มีการเสนอแนะมา ซึ่งการที่พวกท่านเสนอแนะมา เราก็ได้มีการทำและประชุมล่วงหน้าไปแล้ว” นายพิพัฒน์ กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวย้ำว่า เราพร้อมที่จะรับกลับ และพร้อมที่จะส่งกลับไปทำงานในสถานที่เดิมให้ได้มากที่สุด ซึ่งก็จะมีนายจ้างที่รับคนงานอื่นไปแล้ว แต่เราก็จะหาที่ใหม่ให้อีกครั้งหนึ่ง และพยายามส่งกลับไปอีกครั้ง แต่ในส่วนค่าใช้จ่ายอย่างไรก็ต้องมี โดยกระทรวงแรงงานจะเป็นผู้รับผิดชอบในเบื้องต้นไปก่อน

นายพิพัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า งบอพยพทางรัฐบาลจัดการให้อยู่แล้ว แต่การส่งกลับเป็นปัญหาที่กระทรวงแรงงานจะต้องดูแล โดยยังอยู่ในระหว่างการหารือ

 

logoline