svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"บิ๊กทิน" ย้ำหนักแน่น พร้อมบินรับคนไทยทันทีที่อิสราเอลไฟเขียว

"รมว.กลาโหม"ยืนยันกองทัพไม่ล่าช้าอพยพคนไทยออกจากอิสราเอล รอกต.ประสานอิสราเอล ไฟเขียวพร้อมบินทันที ด้าน ทอ.มั่นใจแผนอพยพพาคนไทยกลับบ้าน

9 ตุลาคม 2566 นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีกลาโหม เดินทางมาตรวจความพร้อมเครื่องบิน C-130 เพื่อที่จะใช้ในภารกิจอพยพคนไทยและลำเลียงผู้ป่วยกลับจากประเทศอิสราเอล โดยกองทัพอากาศได้เตรียมเครื่องบิน C-130 ไว้ 5 ลำ ซึ่งสามารถบรรจุผู้โดยสารได้ประมาณลำละ 77คน และเครื่องบินแอร์บัส 340 จำนวน 1 ลำ ที่สามารถบรรจุผู้โดยสารได้ประมาณ 130 คน 

สำหรับเครื่องบิน C-130 จะใช้เวลาเดินทาง9-10 ช.ม.เนื่องจากไม่สามารถบินตรงได้ต้องแวะเติมน้ำมันที่ประเทศอินเดีย ขณะที่เครื่องบินแอร์บัสสามารถบินตรงได้เลย แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอให้ประเทศอิสราเอลเปิดน่านฟ้าถึงจะเริ่มภารกิจได้ทันที 

ส่วนภารกิจในครั้งนี้ได้มีทีมแพทย์และเวชศาสตร์การบินเดินทางไปในภารกิจนี้ด้วยซึ่งล้วนเป็นผู้มีประสบการณ์ ในการทำภารกิจอพยพคนไทยจากต่างประเทศมาก่อน 

นายสุทิน กล่าวว่า วันนี้ตนมาตรวจความพร้อมของกองทัพอากาศกับสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่เพื่อมาดูว่าเรามีความพร้อมแค่ไหน กองทัพอากาศรับนโยบายมาเพื่อเตรียมความพร้อม ในด้านของการอพยพคนไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่จะช่วยรัฐบาล วันนี้ได้เตรียมเครื่องบินไว้เป็นc-130 และแอร์บัส A- 340  นักบิน และผู้ปฏิบัติงานก็พร้อม

นอกเหนือจากเความพร้อมด้านเครื่องบินแล้ว ก็ยังมีการเยียวยารักษาคนไข้ระหว่างเดินทางด้วย แต่ตอนนี้เหลือเพียงว่าการที่เราจะอพยพคนไทยได้นั้น ต้องรอให้ได้รับอนุญาตจากประเทศอิสราเอล และอำนวยความสะดวกเราจึงจะไปรับคนไทยได้ ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงการต่างประเทศกำลังเดินดำเนินการกับประเทศอิสราเอลอยู่เมื่อกระทรวงการต่างประเทศได้ข้อสรุปออกมาว่าให้บินวันไหนก็บินได้ทันที

"วันนี้เราจัดการทุกอย่างไว้พร้อมและมั่นใจว่าจะดูแลคนไทยได้ ตอนนี้เป็นห่วงสถานการณ์ที่นอกเหนือการควบคุมได้ และอาจรุนแรงขึ้นหรือลดลง ถ้ารุนแรงขึ้นน่าเป็นห่วงคือจำนวนคนไทย 30,000 กว่าคน ถ้าคนไทยขอกลับกองทัพอากาศซึ่งเป็นกองกำลังหลักอยู่แล้ว เกรงว่าจะไม่ทันท่วงที จึงอาจขอความร่วมมือกับการบินไทยหรือการบินพลเรือนเข้ามาช่วย หรือถ้าจำเป็นกระทรวงการต่างประเทศ คุยกับประเทศอิสราเอลจบ อาจจะใช้วิธีการเช่าเหมาลำบินกลับมาก่อนก็ได้ แต่ทั้งนี้เราสแตนบายตลอดเวลา"

ส่วนคนไทยที่ลงชื่อกลับมา 1,099 คน นั้น อาจจำเป็นต้องบินหลายเที่ยว หรือใช้วิธีเช่าเหมาลำเสริม วันนี้จากประสานงานมาตอนนี้น่านฟ้ายังไม่ปิด หรือถ้าปิดก็ไปประเทศใกล้เคียง โดยตอนนี้ทำได้เพียงอพยพคนไทยจากเมืองที่อันตรายมากที่สุด มายังเมืองที่อันตรายน้อยที่สุด

ส่วนด้านความปลอดภัยทั้งเครื่องบินกองทัพอากาศและดูแลผู้อพยพเรามี 100% ถ้าเสี่ยงจริงๆ ก็อาจจะเปลี่ยนแผนใช้วิธีอพยพอย่างอื่น ซึ่งในภาวะสงคราม ได้สั่งให้เตรียมความพร้อมสูงสุด โดยในตอนนี้กองบัญชาการกองทัพไทยเป็นเจ้าภาพในการประสานงานความพร้อมกับทุกฝ่าย 

สำหรับเรื่องนี้ต้องเฝ้าระวังโดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพิเศษหรือไม่นั้น นายสุทินกล่าวว่า ผลกระทบไม่ได้เกิดเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้นเราต้องเฝ้าระวังทั้งประเทศ ซึ่งอาจจะเป็นความขัดแย้งหรือการทำลายเป้าหมายทางธุรกิจกันบ้าง ซึ่งผลกระทบก็อาจเป็นไปได้ในทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบ

พร้อมยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดอพยพคนของตนเองออกมาจากประเทศอิสราเอล แม้ว่าน่านฟ้ายังเปิดอยู่ แต่สำหรับประเทศไทยได้มีการเตรียมความพร้อมไว้ หากมีการปิดน่านฟ้ายาวก็จะใช้ประเทศใกล้เคียง ในการอพยพคนไทย เช่น ประเทศจอร์แดน ซาอุดิอาระเบีย อียิปต์ เตรียมแผนไว้3-4 ประเทศ ใกล้เคียง แต่ตอนนี้ทำได้แค่ อพยพคนไทยย้ายจากเมืองที่อันตรายก่อน

ส่วนที่มีการโจมตีในโลกออนไลน์ว่าไทยล่าช้า นายสุทิน กล่าวว่า แม้วันนี้เราพร้อมบินแต่เราก็ต้องรออิสราเอลแต่ตนก็เช็คว่าตอนนี้ก็ยังไม่มีประเทศไหนที่ไปอพยพพลเมืองของเขา  เท่าที่ตรวจสอบก็อาจจะไปโดยประสานยังไงไม่ทราบแต่ว่ายังบินกลับไม่ได้เพราะฉะนั้นเรายืนยันว่าเตรียมพร้อมที่สุด แต่ขั้นตอนยังไม่เปิดให้เราทำ