กต.เผย 15 ผู้บาดเจ็บจากอิสราเอลชุดแรกถึงไทย 12 ต.ค.นี้

9 ตุลาคม 2566 นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน ร่วมกับเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ที่พลเมืองไทยได้รับผลประทบในอิสราเอล ที่มีรายงานคนไทยเสียชีวิต จากเหตุความรุนแรงในตะวันออกกลาง จำนวน 12 คนว่า จำนวนดังกล่าว ยังไม่ได้รับการยืนยันจากสถานเอกอัครราชทูตฯ แต่มีจำนวนผู้บาดเจ็บเพิ่ม 1 คน รวมผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 9 คน และมีผู้ที่ถูกจับกุมเป็นตัวประกัน จำนวน 11 คน

ซึ่งการอพยพคนไทยในอิสราเอลนั้น มีผู้แสดงความจำนงเพิ่มเติมขณะนี้ รวมทั้งสิ้นราว 1,400 คน และไม่เดินทางกลับ 23 คน โดยรัฐบาล จะมีการอพยพผู้บาดเจ็บ จำนวน 15 คนแรก โดยสายการบินพาณิชย์ ออกจากอิสราเอลได้ ในวันที่ 11 ตุลาคมนี้ และจะเดินทางถึงประเทศไทยในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ ซึ่งกระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ได้เตรียมความพร้อมในการตรวจร่างกาย และจิตใจไว้แล้ว 

นอกจากนั้น ในการอพยพคนไทยในอิสราเอลคนอื่น ๆ นั้น นายจักรพงษ์ ชี้แจงว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำอิสราเอล อยู่ระหว่างการจัดทำแผนการอพยพทั้งหมด เพื่อให้รัฐบาลจัดสรรช่วงเวลา และเที่ยวบินในการไปรับคนไทยในแต่ละช่วงเวลา เพราะการเดินทางในอิสราเอลยังลำบาก จะต้องประสานกับทางการ 

นายจักรพงษ์ ยังกล่าวถึงแนวทางการช่วยเหลือคนไทย 11 คนที่ถูกจับเป็นตัวประกันว่า กระทรวงการต่างประเทศ พยายามประสานไปยังสถานทูตไทย ที่มีความสัมพันธ์กับประเทศที่จับคนไทยเป็นตัวประกัน เพื่อขอให้ปล่อยตัวประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเอกอัครราชทูตไทย กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้พบกับทูตของปาเลสไตน์ และแสดงความกังวลของประเทศไทย เพื่อให้มีการปล่อยพลเมืองที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งทุกประเทศแสดงความเห็นใจประเทศไทยต่อการช่วยเหลือผู้ถูกจับเป็นตัวประกัน ส่วนนักเรียนไทยจำนวน 80 คนนั้น ยังมีความปลอดภัยทุกคน 

นอกจากนั้น ในการอพยพคนไทยในอิสราเอลคนอื่น ๆ นั้น นายจักรพงษ์ ชี้แจงว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำอิสราเอล อยู่ระหว่างการจัดทำแผนการอพยพทั้งหมด เพื่อให้รัฐบาลจัดสรรช่วงเวลา และเที่ยวบินในการไปรับคนไทยในแต่ละช่วงเวลา เพราะการเดินทางในอิสราเอลยังลำบาก จะต้องประสานกับทางการ 

นายจักรพงษ์ ยังกล่าวถึงแนวทางการช่วยเหลือคนไทย 11 คนที่ถูกจับเป็นตัวประกันว่า กระทรวงการต่างประเทศ พยายามประสานไปยังสถานทูตไทย ที่มีความสัมพันธ์กับประเทศที่จับคนไทยเป็นตัวประกัน เพื่อขอให้ปล่อยตัวประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเอกอัครราชทูตไทย กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้พบกับทูตของปาเลสไตน์ และแสดงความกังวลของประเทศไทย เพื่อให้มีการปล่อยพลเมืองที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งทุกประเทศแสดงความเห็นใจประเทศไทยต่อการช่วยเหลือผู้ถูกจับเป็นตัวประกัน ส่วนนักเรียนไทยจำนวน 80 คนนั้น ยังมีความปลอดภัยทุกคน 

ส่วนกระแสข่าวที่มีแรงงานไทย ได้รับการช่วยเหลือจากการถูกจับเป็นตัวประกันแล้วนั้น นายจักรพงษ์ ยืนยันว่า ยังไม่ได้รับการยืนยัน เพียงแต่ทางการอิสราเอล ได้พาคนไทยออกจากฉนวนกาซาจำนวนหนึ่งออกมาแล้ว 

นายจักพงษ์ ยังเปิดเผยด้วยว่า รัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศ เตรียมส่งเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนภารกิจในกรุงเทลอาวีฟ เพื่อช่วยเหลือแรงงาน และเตรียมการอพยพ เพราะการดำเนินการปัจจุบันค่อนข้างลำบาก เนื่องจากสถานการณ์มีความตรึงเครียดสูง การเคลื่อนย้ายบุคคล ต้องขออนุญาตรัฐบาลอิสราเอล พร้อมยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีไทย ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย และสวัสดิภาพของพลเมืองไทยในอิสราเอลสูงสุด 

ส่วนการนำศพผู้เสียชีวิตออกจากอิสราเอล เพื่อให้ครอบครัวนำไปประกอบพิธีการตามศาสนานั้น นายจักรพงษ์ ชี้แจงว่า จะต้องรอทางการอิสราเอลจัดการพื้นที่ให้เสร็จสิ้นก่อน เพราะสถานการณ์ในพื้นที่ยังตรึงเครียด การดำเนินการต่าง ๆ เป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ยืนยันว่า รัฐบาล และกระทรวงฯ จะช่วยประสานแน่นอน

นายจักรพงษ์ ยังกล่าวถึงความกังวลของแรงงานที่ต้องการอพยพอาจเสียสิทธิประโยชน์จากการจ้างงานกับนายจ้าง หรือทางการอิสราเอลหรือไม่ว่า รัฐบาล จะมีการเจรจาการกับทางอิสราเอล เพื่อขอให้รักษาสิทธิประโยชน์ของแรงงานไทย ซึ่งทางการเอสราเอล จะมีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวให้เป็นพิเศษ