29 กันยายน 2566 ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารเรือคนใหม่ โดยกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเปิดเผยถึงนโยบายในการบริหารกองทัพเรือ 7 ด้าน ตลอดระยะเวลา 1 ปี ในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ ว่า ตามที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ตนเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 นั้น ตนและครอบครัวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
และจะน้อมนำพระบรมราโชวาทที่พระองค์ได้พระราชทานไว้ในวโรกาสต่าง ๆ มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความจงรักภักดี ซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทยอย่างสูงสุด
โดยการนำกองทัพเรือ ใน 1 ปีข้างหน้านี้ ตนจะบังคับบัญชากำลังพลในทุกระดับ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1. จะปกป้องและรักษาสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
2. จะนำนโยบายรัฐบาล และนโยบายของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรมในโอกาสแรก
3. จะเป็นปีแห่งการกวดขันระเบียบวินัยกำลังพล ให้ปฏิบัติตามคำสั่ง ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนดที่มีอยู่แล้วอย่างจริงจัง
4. จะเป็นปีแห่งการดูแลสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ให้แก่กำลังพลในทุกระดับ เพื่อให้มีขวัญกำลังใจ ที่จะร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ
5. จะดูแลความมั่นคงทางทะเล จะช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ และนำยุทโธปกรณ์มาสนับสนุนรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยของเราให้เจริญรุ่งเรือง
6. จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้กองทัพเรือเป็นหน่วยงานที่ประชาชนชาวไทยเชื่อมั่น และภาคภูมิใจ
7. จะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลที่มีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการและทำให้ทะเลไทยปลอดภัยและมีความมั่นคง
นอกจากนี้ พล.ร.อ.อะดุง ยังได้กำหนด "มอตโต้" เพื่อให้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของกำลังพลทุกระดับไว้ คือ "เทิดทูนสถาบัน ยึดมั่นระเบียบวินัย ประชาชนภูมิใจ ทะเลไทยมั่นคง" พร้อมขอขอบคุณที่เป็นกำลังใจและจะตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะไม่ให้เกิดความผิดพลาดใด ๆ และขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้กองทัพเรือ
ส่วนเรื่องเรือดำน้ำเปลี่ยนเครื่องยนต์จีนที่จะนำส่ง รมว.กลาโหมนั้น ขอศึกษารายละเอียด แต่เท่าที่ทราบ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. (คนปัจุบัน) ได้ลงนามแล้ว และส่งไปให้กองบัญชาการกองทัพไทยแล้ว ซึ่งตนจะดำเนินการโดยเร็วที่สุด
เมื่อถามว่า กองทัพเรือพร้อมที่จะใช้เครื่องยนต์ของจีน หรือพร้อมที่จะให้ยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงเรื่องเรือดำน้ำหรือไม่ พล.ร.อ.อะดุง กล่าวว่า ยังไม่ขอตอบ ขอไปศึกษา และขอให้เป็นไปตามที่ พล.ร.อ.เชิงชาย ดำเนินการ
ส่วนจะมีแผนรองรับหรือไม่ กรณีที่รัฐบาลตัดสินใจเรื่องเรือดำน้ำไปอีกทางนั้น พล.ร.อ.อะดุงกล่าวว่า การตัดสินใจของรัฐบาลหรือกองทัพเรือ ตัดสินใจเพื่อผลประโยชน์ของกองทัพเรือและประเทศชาติ จะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการกู้เรือหลวงสุโขทัย พล.ร.อ.อะดุง กล่าวว่า เมื่อ 20 กันยายน 2566 ได้เปิดเชิญชวนให้บริษัทเอกชนเข้ามาประมูลเรียบร้อยแล้ว ซึ่งครั้งที่ยกเลิกไป พล.ร.อ.เชิงชาย ก็ได้ระบุแล้วว่า ไม่มีอะไรผิด เพียงแต่เปิดซองแล้วทุกบริษัทใส่เอกสารมาไม่ครบ ดังนั้น วันที่ 19 ตุลาคม 2566 น่าจะมีการยื่นซองประมูลใหม่ ส่วนไทม์ไลน์คร่าว ๆ ของการกู้เรือหลวงสุโขทัย ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เรือจะทยอยขึ้น
เมื่อถามถึงกรณีที่ รมว.กลาโหม สั่งการให้จเรทหารมาตรวจสอบความเรียบร้อย เรื่องการกู้เรือหลวงสุโขทัย พล.ร.อ.อะดุง ระบุว่า ยังไม่ได้อ่านข่าว แต่ในฐานะเป็นประธานกู้เรือ เราทำด้วยความตรงไปตรงมาทุกอย่าง
เมื่อถามว่าทางการเมืองจับตาดู มีความกดดันห่วงอะไรหรือไม่ พล.ร.อ.อะดุงกล่าวว่า ไม่ห่วงอะไรเลย กองทัพเรือจะทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน และทำอย่างตรงไปตรงมา ยืนยันว่าทั้ง 2 เรื่องนี้จะต้องเสร็จในยุคของตน