svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ปิดฉากเก้าอี้ ผบ.ทร. บิ๊กจ๊อด เซ็นอนุมัติเครื่องยนต์จีนใส่เรือดำน้ำแล้ว

01 กันยายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"บิ๊กจ๊อด" เซ็นอนุมัติเครื่องยนต์จีนใส่เรือดำน้ำไทยแล้ว พร้อมไฟเขียวกู้ รล.สุโขทัย ขณะที่ "บิ๊กดุง" ว่าที่ผู้นำทัพเรือคนใหม่ เตรียมวางนโยบายให้ ทร.กลับมาได้รับความเชื่อถือ

1 กันยายน 2566 พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้กล่าวในงานพบปะสานสัมพันธ์สื่อมวลชน ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในปลายเดือนกันยายนนี้ ว่า สื่อเป็นกลางในการนำเสนอเรื่องที่ดี และเรื่องที่เคลือบแคลง โดยไม่ได้บิดเบือนให้ประชาชนได้รับทราบ เราเปิดเผยทุกเรื่อง ไม่ปิดบัง กองทัพเรือพยายามเผยแพร่ข้อมูลผ่านโฆษกกองทัพเรือ

โดยยืนยันว่าได้ว่าจัดทำข้อมูลในเอกสารข่าวตามความจริงทุกประการ และโฆษกฯก็ตอบคำถามได้ทุกประเด็น ช่วงปีที่ผ่านมามีหลายเรื่อง ตั้งแต่ตนรับหน้าที่ก็ให้สัมภาษณ์สื่อว่าในรอบปีที่เข้ามารับตำแหน่งจะทำอะไรบ้างเป็นข้อ ๆ ถ้าย้อนกลับไป ณ วันนั้น ก็ได้ทำตามที่พูดไว้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรือดำน้ำ เรื่องของการจัดหาเรือฟริเกต การรับมอบรล.ช้าง ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบก การปรับปรุง การประเมินยุทธศาสตร์กองทัพเรือ เพื่อมองไปในอนาคต

ซึ่งถือว่าในรอบปีได้ทำตามที่สัมภาษณ์ตั้งแต่ต้นทุกอย่างแล้ว ไม่มีอะไรติดค้างที่จะต้องฝากให้ ผบ.ทร. และ ทีมบริหารรุ่นใหม่ดำเนินการต่อไป เพียงแต่สานต่อการดำเนินการ หรือจะคิดใหม่ทำใหม่ก็แล้วแต่ผู้บริหารที่จะเข้ามา

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า พล.ร.อ.เชิงชาย ได้ลงนามเห็นชอบเครื่องยนต์ CHD-620 ที่ผลิตจากบริษัทของจีน เพื่อติดตั้งในเรือดำน้ำ S26T เรียบร้อยแล้ว หลังจากคณะทำงานในการเจรจาเรื่องดังกล่าวได้พูดคุยกับ บริษัท CSOC หลายรอบ

โดยกองทัพเรือ ส่งทีมคณะทำงานด้านเทคนิค ไปร่วมประเมินประสิทธิภาพก่อนสรุปให้กับประธานคณะกรรมการโครงการเรือดำน้ำที่มี พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ เป็นประธาน และได้รับข้อเสนอในการเพิ่มการรับประกันจาก 10 ปี เป็น 20 ปี การส่งกำลังบำรุง อะไหล่ และระบบอาวุธในเรือเพิ่มเติม โดยไม่รับข้อเสนอในการซื้อเรือดำน้ำมือสองในราคาถูก เพราะต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมในการซ่อมบำรุง  และต้องมีภาระในด้านอื่นที่ต้องปรับสภาพพร้อมใช้งานจริง ในระหว่างนี้เครื่องยนต์ดังกล่าวอยู่ระหว่างติดตั้งในเรือดำน้ำของปากีสถาน นำร่องเพื่อเตรียมทดสอบการใช้งานจริงนำร่องไปแล้ว

สำหรับความคืบในการกู้เรือหลวงสุโขทัย พล.ร.อ.เชิงชาย ได้อนุมัติให้ พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เตรียมทีโออาร์ เชิญชวนบริษัทที่จะเข้าทำการกู้เรือ และคาดว่าจะลงนามได้ภายใน 2 สัปดาห์นี้  โดยสำนักงบประมาณอนุมัติงบกลางให้ 90 ล้านบาท และกองทัพเรือได้จัดหางบประมาณในส่วนของกองทัพเรือ 110 ล้าน

โดยจะใช้ระยะเวลาในการกู้เรือประมาณ 3 เดือน หลังจากที่มีการประเมินความคุ้มค่าจากเครื่องอุปกรณ์ อาวุธต่างๆ และจะเป็นวัตถุพยานประกอบกับคำให้การเหตุอับปางของเรือ ก่อนคณะกรรมการสรุปฯ ผลเพื่อดำเนินการต่อไป

มีรายงานด้วยว่า หลังจากที่ พล.ร.อ.อะดุง ที่จะมาดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารเรือคนใหม่ ได้เตรียมแนวทางในการทำงานในช่วง 1 ปี เพื่อเรียกความเชื่อถือ ศรัทธา และความไว้วางใจต่อกองทัพเรือ ในสายตาประชาชนให้กลับมา หลังจากที่ประสบปัญหาหลายเรื่องจนกระทบต่อภาพลักษณ์ของกองทัพ ทั้งที่เคยเป็นที่พึ่งของประชาชนในหลายโอกาส ไล่ตั้งแต่ เรือหลวงสุโขทัย เหตุอาวุธกระสุนหายในคลังแสง กำลังพลนอกแถวที่สร้างความเดือดร้อนให้สังคม และโครงการจัดหาอาวุธที่เป็นปัญหาในอดีต

“จะเป็นปีที่กองทัพเรือจะเริ่มดีขึ้นในทุก ๆ ด้าน หลังจากที่ปัญหาทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย เมื่อรื้อมาดูเนื้อในแล้วจะเห็นว่า กองทัพเรือมีระเบียบ หลักการปฏิบัติ ที่เป็นลายลักษณ์อักษรกำกับไว้ในเอกสารหมดแล้ว แต่เมื่อนำไปปฏิบัติทุกวันก็ไม่เป็นเหมือนที่กำหนดไว้ เหมือนเครื่องยนต์ที่หลวม ก็ต้องมีการขันน็อตให้เข้าที่เข้าทาง เพื่อให้การทำงานเดินหน้า อย่างเช่น กรณีคลังอาวุธที่กำลังพลนำออกไปขายข้างนอก ทั้งที่มีการวางระบบตรวจสอบไว้แล้ว อีกทั้งต้องหาแนวทางในการสื่อสารให้สังคมเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของทหาร การเสริมสร้างขีดความสามารถของกองทัพตามความเหมาะสม ทั้งโครงการเรือดำน้ำ ที่ถูกโจมตีช่วงเวลาที่ผ่านมาว่าปัญหาเกิดจากอะไร และได้แก้ไขอย่างไร” แหล่งข่าวอ้างคำพูด พล.ร.อ.อะดุง ว่าที่ ผบ.ทร.
พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่

logoline