
30 กรกฎาคม 2566 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงกรณีการจัดตั้งรัฐบาลของ 8 พรรคร่วม ที่มักมีรายงานข่าวพรรคพลังประชารัฐเข้าไปร่วมรัฐบาลด้วยว่า หลังการไปหารือแนวทางแก้วิกฤตและหาทางออกให้ประเทศ ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อสัปดาห์ก่อนนั้น จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่มีการพูดคุยใด ๆ กันอีก และรอติดตามความชัดเจนว่า ก่อนการประชุมรัฐสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3 ในวันที่ 4 สิงหาคม พรรคเพื่อไทยจะมีการติดต่อใด ๆ มาหรือไม่ พร้อมย้ำจุดยืนของพรรคพลังประชารัฐว่า จะทำหน้าที่ผู้แทนของประชาชนให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด
ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึงแนวทางการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ว่า สส. ของพรรคพลังประชารัฐ จะลงมติตามมติของพรรคฯ โดยจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ส่วนจะมีปัจจัยใด ที่จะทำให้การนำจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยล่าช้าออกไปอีกหรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า หลังพ้นห้วงวันหยุดยาวจนถึงกลางสัปดาห์นี้ จะมีความชัดเจน และเสร็จสิ้นการเลือกนายกรัฐมนตรี ก่อนวันที่ 15 สิงหาคมนี้ แต่การจัดตั้งคณะรัฐมนตรีนั้น เชื่อว่า ยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ที่จะต้องขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีคนใหม่
และยืนยันด้วยว่า การขึ้นมาทำหน้าที่เป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐของตนเองนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมสัมพันธ์ไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย เพราะการปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ ได้พิจารณามาตั้งแต่เสร็จสิ้นการเลือกตั้งแล้ว เพื่อให้พรรคกลับมาเติบโตเหมือนเดิม โดยเป็นคนละเรื่องกับการจัดตั้งรัฐบาล
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงกระแสข่าวที่ พล.อ.ประวิตร มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ว่า พรรคพลังประชารัฐ จะต้องให้สิทธิ์พรรคเพื่อไทยในการนำจัดตั้งรัฐบาลก่อน โดยพรรคพลังประชารัฐ จะไม่เสนอชื่อแข่ง ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ หรือไม่ได้ก็จะถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่พรรคพลังประชารัฐ มี สส.เพียง 40 เสียงเท่านั้น พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวที่พรรคพลังประชารัฐ มี สส.งูเห่าจากพรรคก้าวไกลมาถึง 30 เสียง
ส่วนโอกาสการไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จะต้องรอให้รัฐสภาลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้นก่อน และขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยว่า จะเชิญพรรคพลังประชารัฐ ไปร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ และเชื่อว่า การทำงานร่วมกันจะไม่มีปัญหา เนื่องจาก สส.พรรคพลังประชารัฐส่วนหนึ่ง ก็เคยเป็น สส.พรรคเพื่อไทยมาก่อน แต่มีเงื่อนไขว่า พรรคพลังประชารัฐ จะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคที่มีจุดยืนแตกต่างกับพรรคฯ ไม่เฉพาะกับพรรคก้าวไกลเท่านั้น
ร.อ.ธรรมนัส ได้ปฏิเสธที่จะกล่าวถึงการรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ ของพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ซึ่งน้องชายพล.อ.ประวิตร โดยกล่าวเพียงว่า ตนเองยังไม่ได้คุยกับพล.ต.อ.พัชรวาท แต่เชื่อว่า มีคุณสมบัติที่พร้อมมาทำงานให้กับพรรคพลังประชารัฐได้ และยังไม่มั่นใจว่า พล.ต.อ.พัชรวาท จะรับตำแหน่งดังกล่าว หรือมาทำงานทางการเมืองหรือไม่ เชื่อว่า เรื่องที่พล.ต.อ.พัชรวาท จะมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่าง ๆ นั้น เป็นเพียงข่าวลือ
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวพล.อ.ประวิตร รับทราบทุกความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงการเดินทางกลับประเทศไทยหรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ไม่มีความเกี่ยวข้อง และไม่มีการดีลทางการเมืองใด ๆ กับขั้วอำนาจเดิม และเชื่อว่า การเดินทางกลับประเทศของนายทักษิณ เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ไม่ได้รับอภิสิทธิ์ใด ๆ
และไม่ขอก้าวล่วงให้ความเห็นว่า นายทักษิณจะสามารถเดินทางกลับประเทศได้จริงหรือไม่ แต่ก็เป็นสิทธิ์ของนายทักษิณ ที่จะเดินทางกลับประเทศในฐานะคนไทยคนหนึ่ง และเห็นว่า การเดินทางกลับประเทศของนายทักษิณ เป็นคนละเรื่องกับการไปผูกโยงกับสถานการณ์ทางการเมือง
ร.อ.ธรรมนัส ยังย้ำถึงการเดินทางไปฮ่องกงว่า ไปดำเนินธุรกิจส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลอื่น และดีลทางการเมืองใด ๆ รวมถึงกล่าวติดตลกด้วยว่า ไม่มีการไปพบกับนายทักษิณ และรอเพียงการจัดงานวันเกิดให้กับพล.อ.ประวิตร ในวันที่ 11 สิงหาคมนี้เท่านั้น