
12 มิถุนายน 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาฯป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการยื่นแสดงรายการบัญชีรายชื่อทรัพย์สินและหนี้สินของ ส.ส. กรณีพ้นจากตำแหน่ง ว่า ตามกฎหมายต้องยื่นทรัพย์สินภายใน 60 วันหลังจากพ้นตำแหน่ง ซึ่งครบกำหนดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา
โดยขณะนี้ยื่นทรัพย์สินมายัง ป.ป.ช.แล้ว ประมาณ 384 ราย หรือคิดเป็นกว่า 70% แล้ว ที่เหลือที่ยังไม่ได้ยื่นอีกประมาณ 100 กว่าบัญชี ซึ่งมีหลายรายที่ขอขยายเวลาการยื่น โดยตามกฎหมายสามารถขอขยายได้ 30 วัน ซึ่งจะครบในวันที่ 18 มิถุนายนนี้
สำหรับการยื่นบัญชีทรัพย์สินกรณีพ้นจากตำแหน่งนั้น มีหลักการตรวจสอบคือ เปรียบเทียบกับบัญชีขาเข้ารับตำแหน่งว่ามีทรัพย์สินใดที่เพิ่มมากขึ้นผิดปกติหรือไม่ หรือมีหนี้สินลดลงผิดปกติหรือไม่ เป็นประเด็นสำคัญของการตรวจสอบ และหากพบเหตุอันควรสงสัยว่าผิดปกติจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเชิงลึก หรือหากตรวจสอบพบว่าถึงขนาดมีเหตุร่ำรวยผิดปกติก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการไต่สวน
ส่วนกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้มีการยื่นบัญชีทรัพย์สินกรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.มาแล้วหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า ยังไม่ได้ยื่น ทราบว่ามีหนังสือขอขยายเวลาส่งมาที่ป.ป.ช. จะครบกำหนดยื่นในวันที่ 18 มิถุนายนนี้เช่นกัน
โดยหากครบวันที่ 18 มิถุนายน ยังจะสามารถขอขยายเวลาได้อีกหรือไม่นั้น ความจริงในกฎหมายไม่มีเขียนว่าให้ขยายได้อีก แต่อยู่ที่ผู้ยื่น โดยดูที่เจตนาว่ายื่นล่าช้าหลังจากพ้นเป็นเพราะอะไร ดูเจตนาเป็นหลัก หลักกฎหมายที่เขียนไว้คือ หากมีเจตนาปกปิด อำพราง ซ่อนเร้น ทรัพย์สินหรือหนี้สินและตรวจพบว่ามีพฤติการณ์เช่นนั้น จึงจะสามารถวินิจฉัยชี้มูลความผิดได้ อย่างไรก็ตาม กรณีนายพิธาถูกสังคมจับตาเป็นพิเศษ ป.ป.ช.จะตรวจสอบปกติ ไม่ได้เพ่งเล็งแต่อย่างใด ทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการเดียวกัน มีบรรทัดฐานเดียวกัน ซึ่งเป็นไปตามหลักการ
นายนิวัติไชย กล่าวถึงการที่นายพิธา ยื่นทรัพย์สินเพิ่มในส่วนของหุ้นไอทีวีมาทาง ป.ป.ช.ได้มีการตรวจสอบความคืบหน้าอย่างไรว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ สำหรับเรื่องหุ้นไอทีวี นายพิธาได้ยื่นเพิ่มเติมในภายหลังเมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.เมื่อปี 2562 และเมื่อมีข่าว มีข้อมูลเกี่ยวกับการข้อกล่าวหา ป.ป.ช.ก็จะต้องไปตรวจสอบว่าเป็นหุ้นไอทีวีหรือไม่ หรือหุ้นอะไร มีมูลค่าเท่าไหร่ เป็นการยื่นในฐานะผู้จัดการมรดก ตามที่เขาหมายเหตุเอาไว้หรือไม่ มีคำสั่งศาลหรือไม่ ซึ่งต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง
ส่วนกรณีนายพิธา โอนหุ้นบริษัทไอทีวีล่าสุดตามที่เป็นข่าวนั้น ต้องคอยดูข้อมูลประกอบในกรณีที่นายพิธาจะยื่นทรัพย์สินกรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส. โดยไปดูประกอบกันระหว่างวันที่เข้ารับตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่ง เปรียบเทียบกัน เพื่อดูว่ายังมีอยู่หรือไม่ แต่ขณะนี้นายพิธา ยังไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินกรณีพ้นตำแหน่งเข้ามา จึงยังไม่ได้ดู ซึ่งหากยื่นมาแล้วไม่มีหุ้นไอทีวี เราก็ต้องดูว่าหุ้นที่หายไปมีมูลค่าเท่าไหร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจจะต้องตรวจสอบเพิ่มเติมได้ถ้าเห็นว่าเป็นสาระสำคัญ