29 พฤษภาคม 2566 "นายชัยธวัช ตุลาธน" ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขาธิการพรรคก้าวไกล เปิดเผยถึงโผ ครม. ที่มีกระแสข่าวออกมา และสูตรคำนวน ส.ส. 14+1 ของพรรคก้าวไกลนั้น เป็นแนวทางในการจัดแบ่งภาระหน้าที่ แต่รายละเอียดยังไม่ได้ข้อยุติ และเบื้องต้นตนได้หารือกับแต่ละพรรคไปแล้ว ว่ามีความต้องการจะผลักดันวาระอะไรบ้าง เพื่อให้ยึดโยงกับหน่วยงาน กระทรวง กรม
"ย้ำว่าการจัดแบ่งกระทรวง จะเอาวาระที่จะผลักดันเป็นตัวตั้ง แล้วมาดูว่าแต่ละวาระที่แต่ละพรรคให้ความสำคัญไป เกี่ยวข้องกับกระทรวง หน่วยงาน หรือกรมใด ซึ่งก็เชื่อว่าคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาลที่ตั้งขึ้นจะทำให้การแบ่งสรร ความรับผิดชอบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ" นายชัยธวัช กล่าว
ส่วนจะเป็นกะทรวงตามที่มีการข่าวนำเสนอหรือไม่ คงยังไม่ได้ข้อยุติขนาดนั้น และยังมีเวลาพูดคุยกันอยู่ แต่แนวโน้มการพูดคุยเป็นไปได้ด้วยดี ส่วนเรื่องการแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีในวันที่ 30 พ.ค. ในการประชุมที่พรรคประชาชาติ จะยังไม่ได้มีการพูดคุย แต่หากมีพรรคไหนเสนอขึ้นมาพูดคุยก็ไม่มีปัญหาอะไร
"สัดส่วนเก้าอี้ ก็คงเป็นแนวทางพูดคุย แต่คงไม่ถึงขนาดเมื่อก่อน ที่จะมาคุยว่า เกรดเอ เอบวกบวก เท่ากับเกรดซีสองกระทรวง หรืออะไรแบบนี้ ก็คงไม่ขนาดนั้น เพราะเราเอาวาระเป็นหลัก" เลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุ
ส่วนกระแสข่าวที่จะเอาเก้าอี้กระทรวงพลังงานแลกกับประธานสภานั้น ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นข้อเท็จจริง อาจจะเป็นการประเมินเอา
สำหรับการทาบทามคนนอกเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค ก็เป็นเรื่องปกติของทุกรัฐบาล ที่บางตำแหน่ง หากพรรคให้ความสำคัญกับทักษะความสามารถในการบริหาร ก็ไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส.มาดำรงตำแหน่งเท่านั้น เพราะภายในพรรคก้าวไกลไม่ได้กำหนดว่า แกนนำได้ ส.ส.กี่คน จึงจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรี แต่พรรคยึดถือความเหมาะสมของตัวบุคคล ที่จะทำให้นโยบายสำเร็จ