svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เปิดสูตร “ขั้วรัฐบาลใหม่" หาก “ก้าวไกล” พ่ายศึกชิงเก้าอี้ประธานสภา

26 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“เก้าอี้ประธานสภา” จุดเปลี่ยนขั้วรัฐบาลใหม่ ศึกที่ “พรรคก้าวไกล” ต้องชนะเท่านั้น เพราะหากพ่ายแพ้ เท่ากับโอกาสในการเป็น “รัฐบาล” หลุดลอย

กำลังดำเนินเป็นไปอย่างดุเดือด สำหรับศึกชิงเก้าอี้ “ประธานสภา” ระหว่าง “เพื่อไทย” กับ “ก้าวไกล” โดยไม่มีใครใส่เกียร์ถอยให้แก่กัน แต่สมมติว่า หาก “พรรคก้าวไกล” พ่ายในศึกชิงเก้าอี้ประธานสภา แล้ว “พรรคเพื่อไทย” คว้าเก้าอี้นี้ไปครองได้สำเร็จ เพราะชนะโหวตในสภา ซึ่งการจะชนะได้ ต้องได้เสียงโหวตจากฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลเดิมด้วย

นั่นคือสัญญาณของการพลิกขั้ว-เปลี่ยนแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลังมีประธานสภาคนใหม่แล้ว ซึ่งหาก “เพื่อไทย” คว้าเก้าอี้ประธานสภา งานก็จะง่ายไปอีกขั้น

ปัจจุบัน 8 ว่าที่พรรคร่วมรัฐบาล หรือที่เรียกว่า “รัฐบาลก้าวไกล” มีเสียงรวมกัน 312 เสียง ประกอบด้วย

พรรคก้าวไกล 151 เสียง

พรรคเพื่อไทย 141 เสียง

พรรคประชาชาติ 9 เสียง

พรรคไทยสร้างไทย 6 เสียง

พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง

พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง

พรรคเป็นธรรม 1 เสียง

พรรคพลังสังคมใหม่ 1 เสียง

เปิดสูตร “ขั้วรัฐบาลใหม่ หาก “ก้าวไกล” พ่ายศึกชิงเก้าอี้ประธานสภา

ส่วนฝ่ายที่ไม่ได้รับเชิญ 10 พรรค มีเสียงรวมกัน 188 เสียง ประกอบด้วย

พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง

พรรคพลังประชารัฐ 40 เสียง

พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง

พรรคประชาธิปัตย์ 25 เสียง

พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง

พรรคชาติพัฒนากล้า 2 เสียง

พรรคใหม่ 1 เสียง

พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง

พรรคท้องที่ไทย 1 เสียง

พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1 เสียง

หาก “เพื่อไทย” ไม่โหวต “ประธานสภา” ให้กับคนของ “ก้าวไกล” ฝ่าย “รัฐบาลก้าวไกล” จาก 8 พรรค ก็จะเหลือ 7 พรรค ถ้ายังโหวตให้ “ก้าวไกล” ทั้งหมด ก็จะเหลือเพียงแค่ 171 เสียง

ถ้า “เพื่อไทย” ดีลกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิม เป็นสูตร 3 พรรค “เพื่อไทย” , “ภูมิใจไทย” , “พลังประชารัฐ” ก็จะได้เสียง 252 เสียง เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว คิดแค่นี้ก็ชนะแล้ว

เปิดสูตร “ขั้วรัฐบาลใหม่ หาก “ก้าวไกล” พ่ายศึกชิงเก้าอี้ประธานสภา

ส่วนพรรคที่เหลือ ไม่นับ “รวมไทยสร้างชาติ” ล้วนเคยประกาศว่า จะหนุนพรรคที่รวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ทั้ง “ประชาธิปัตย์” , “ชาติไทยพัฒนา” , “ชาติพัฒนากล้า” , ส่วนพรรคเล็กอีก 4 เสียง ไปไหนไปกัน เพราะรวมเป็นกลุ่มนัมเบอร์วัน แม้จะยังลงชื่อตกลงกันไม่ครบ แต่ประธานกลุ่มคือ “พลังสังคมใหม่” หัวหน้าพรรคเป็นคนน่าน ก็น่าจะหนุน “หมอชลน่าน” และย้ายขั้วมาอยู่ฝ่ายนี้

นับรวมเสียงทั้งหมดจะได้ 294 เสียง (บวกประชาธิปัตย์ , ชาติไทยพัฒนา , ชาติพัฒนากล้า และ 4 พรรคเล็ก + พลังสังคมใหม่) เท่ากับ “เพื่อไทย” ครองเสียงข้างมากในสภาล่าง แทน “ก้าวไกล” โดยสมบูรณ์ ก็เหลือแค่วัดใจ “พรรคประชาชาติ” , “ไทยสร้างไทย” , “เพื่อไทรวมพลัง” , “เสรีรวมไทย” และ “พรรคเป็นธรรม”

ไล่ดู “ประชาชาติ” ก็หน่อเนื้อ “เพื่อไทย” , “ไทยสร้างไทย” ก็ศิษย์เก่าคนสำคัญ , “เพื่อไทรวมพลัง” ก็คือ “เพื่อไทยสาขา 2” , “เป็นธรรม” ก็พรรค “เสธ.แมว - พลโท ภราดร พัฒนถาบุตร” อดีตเลขาธิการ สมช. สายตรงคนแดนไกล ส่วน “เสรีรวมไทย” ก็เคยมีข่าวต่อสายคุยกับคนอยู่ไกล

สุดท้ายน่าจะปิดดีลตั้งรัฐบาล เหลือฝ่ายค้านคือ “ก้าวไกล” กับ “รวมไทยสร้างชาติ” ซึ่งทำงานด้วยกันแทบไม่ได้เลย ก็จะกลายเป็น “ฝ่ายค้านอ่อนแอ”

รัฐบาลใหม่สบายแฮด้วยประการฉะนี้ ส่วนการตกลงเก้าอี้ ไม่ให้บาดใจกองเชียร์ ก็อาจจะมีออปชั่นรอบ 2-3-4 เป็นเก้าอี้ดนตรีวนให้ “ภูมิใจไทย” โดยไม่เข้ามาล็อตใหญ่ตั้งแต่ต้นในการตั้งรัฐบาล

logoline