26 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากช่วงค่ำวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา "พรรคเพื่อไทย"ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ของพรรคเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ปรากฎว่าล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 วันนี้ "พรรคเพื่อไทย"ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของพรรค ตอกย้ำเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง
โดยระบุว่า "ประธานสภา" ควรเปิดทางผลักดัน "ทุกนโยบาย" ของ "พรรคร่วมรัฐบาล" ให้สำเร็จ ไม่ใช่ผลักดันวาระของพรรคใดพรรคหนึ่งเท่านั้น
ปัจจุบันที่เป็น "รัฐบาลผสม" มีภารกิจสำคัญใน MOU ร่วมกัน ไม่ว่าประธานสภาจะเป็นใคร มาจากพรรคใด ก็ต้องทำภารกิจร่วมกันให้บรรลุเป้าหมาย
ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในวงการเจรจาพรรคร่วมรัฐบาล พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่า การจัดสรรตำแหน่งจะคำนึงถึงความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่ายเป็นหลัก
หากจะยกกรณีที่เพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ชนะโหวตทั้งนายกฯ และประธานสภามาโดยตลอด ไม่มีพรรคอันดับสองได้ นั่นเป็นเพราะเพื่อไทยชนะเลือกตั้งเด็ดขาด ได้คะแนนเสียงเกินครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร จึงชนะโหวตด้วยเสียงของ ส.ส.และผู้สนับสนุน
ในกรณีนี้ เราชนะมาด้วยกัน ก็ควรทำงานร่วมกันด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล หลีกเลี่ยงที่จะใช้มวลชนกดดัน แต่ควรหาทางทำภารกิจเพื่อประชาชนร่วมกันให้สำเร็จ ประเทศจึงจะได้ประโยชน์สูงสุด
นอกจากนั้นหากจะพิจารณากันอย่างถ่องแท้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 116 และ 119 ประธานสภาต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง โดยเป็นประธานของ ส.ส.ทั้งสภา ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล รัฐธรรมนูญมาตรา116 จึงบัญญัติว่าประธานและรองประธานสภาผู้แทน จะเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองในเวลาเดียวกันไม่ได้
ประธานสภาจึงต้องผลักดันญัตติใดๆ ไม่ว่าจะเป็นของรัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือประชาชนเข้าสู่สภา ไม่เลือกปฏิบัติ และหาทางลดอุปสรรคทั้งหลาย ตามหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบอบรัฐสภา.