svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"รทสช." ถอดบทเรียนเลือกตั้ง เดินหน้ามุ่งเป็นสถาบันการเมืองหลัก

24 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"พีระพันธุ์ - เอกนัฏ" ยันเดินหน้า รทสช.ในรูปแบบใหม่ทันยุคสมัย พร้อมหนุนคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนพัฒนาพรรค ย้ำไม่ใช่การ “รีแบรนด์” แต่เป็นการเพิ่มศักยภาพ มุ่งสู่การเป็นสถาบันการเมืองหลักของประเทศ

24 พฤษภาคม 2566 ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค พร้อมนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการ พร้อมด้วยผู้บริหารพรรค ได้แก่ นายเกรียงยศ สุดลาภา และ รศ.ดร. (พิเศษ) ดวงฤทธิ์ เบญจาธิกุล (ชัยรุ่งเรือง) ร่วมกันประชุมกับตัวแทนผู้สมัคร ส.ส. กทม. และผู้สมัคร ส.ส.รุ่นใหม่ ของพรรค เพื่อสรุปผลการทำงานจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคขอขอบคุณผู้สมัครทุกคน ที่ได้ต่อสู้ร่วมกันในการเลือกตั้งในครั้งนี้ แม้ว่า พรรคจะไม่ได้ผู้แทนในพื้นที่กรุงเทพฯ แม้จากคะแนนเสียงที่ได้รับในหลายพื้นที่ อยู่ในลำดับ 2 หรือ ลำดับ 3 แต่ถือว่าเป็นความสำเร็จของพรรคใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มต้นการทำงานการเมือง

"รทสช." ถอดบทเรียนเลือกตั้ง เดินหน้ามุ่งเป็นสถาบันการเมืองหลัก

“ผมขอให้กำลังใจ กับผู้สมัคร ส.ส.กทม. ทั้งผู้ที่เคยเป็น ส.ส.มาก่อน และผู้สมัครหน้าใหม่ที่มีความตั้งใจ และมีอุดมการณ์เดียวกับพรรค หลังจากนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ ยังคงเดินหน้าทำงานการเมืองต่อ และยินดีต้อนรับทุกคน ที่ยังมุ่งมั่นจะเดินบนเส้นทางสายการเมืองต่อไป” นายพีระพันธุ์ กล่าว

นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ตนในฐานะที่อยู่ในการทำงานด้านการเมือง โดยเฉพาะสนามของกรุงเทพฯ มา 30 ปี ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหลายรูปแบบ การเลือกตั้งมีทั้งขึ้นและลง ถือเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในแบบต่างๆ จึงอยากให้ทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่จะเข้าสู่สนามการเมือง มองเรื่องของความไม่แน่นอนเป็นเรื่องปกติ แม้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะแปลกกว่าทุกครั้งก็ตาม 

ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนใช้ประสบการณ์ครั้งนี้ เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนา ปรับปรุงวิธีคิด และวิธีหาเสียง เพื่อให้ทันตามยุคสมัยและวิธีการสื่อสารที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการบริหารจัดการ การสื่อสารในประเด็นต่างๆ แรงกระแทกต่างๆ เพื่อให้การทำงานทางการเมืองเป็นไปอย่างเหมาะสม และขอให้นึกถึงอุดมการณ์ที่เข้ามาทำงานเพื่อสังคม ประเทศชาติ และประชาชนเป็นที่ตั้งไว้เสมอ

"รทสช." ถอดบทเรียนเลือกตั้ง เดินหน้ามุ่งเป็นสถาบันการเมืองหลัก

“ถ้าตั้งใจที่จะมีอาชีพนักการเมือง เพื่อดูแลประชาชน ผมขอให้มุ่งมั่น และขออย่าเอาความผิดพลาดในครั้งแรก มายึดติด และทำให้หมดกำลังใจ แต่ขอให้เอากลับมาเป็นประสบการณ์ บทเรียน เพื่อพัฒนาตัวเองต่อไป และในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติเอง เราก็จะยังคงทำงานกันต่อไป และจะขอเชิญทุกท่านมาร่วมประชุม เพื่อระดมสมองทำงานกันต่อ

เพราะถือว่าทุกคนเป็นเพื่อนร่วมงาน ที่จะต้องเดินหน้าทำงานด้วยกัน ไม่ว่าใครจะได้ตำแหน่ง หรือไม่ตำแหน่ง ถ้ามีจิตใจในการทำงานก็สามารถทำงานด้วยกันได้ ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ แนวทางของพรรคคือ จะไม่ทิ้งคนที่ตั้งใจทำงาน ทุกคนมีความสำคัญเท่าเทียมกันหมด ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม เพราะทุกคนต่างร่วมสู้ศึกอย่างเต็มที่มาด้วยกัน” นายพีระพันธุ์ กล่าว 

ด้าน นายเอกนัฏ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ยังคงมีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคมาร่วมประชุมกันอย่างอบอุ่นเหมือนเดิม ซึ่งไม่เพียงแต่ จะมีผู้สมัครในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ยังมีผู้สมัครรุ่นใหม่จากจังหวัดอื่นๆ มาร่วมพูดคุยในครั้งนี้ด้วย จึงถือได้ว่าทุกคนยังคงมีใจเป็นนักสู้ ตนในฐานะเลขาธิการพรรค ต้องขอขอบคุณทุกๆคน ที่ร่วมทำงานกันอย่างหนักมาตลอดในสนามการเลือกตั้งครั้งนี้

ถึงแม้ว่า สนามใน กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติ จะไม่มี ส.ส.เลย แต่หลายพื้นที่ก็พบว่า มีคะแนนมาเป็นอันดับ 2 อันดับ 3 สามารถเอาชนะผู้สมัครพรรค ที่เคยคาดว่าจะได้รับการเลือกตั้งไปได้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานของทุกคน ที่ลงพื้นที่ตามแนวทางที่พรรคได้ตั้งไว้ 

"รทสช." ถอดบทเรียนเลือกตั้ง เดินหน้ามุ่งเป็นสถาบันการเมืองหลัก

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะได้นำประสบการณ์ต่างๆ  มาถอดบทเรียน เพื่อเติมเต็มในการทำงานต่อไปข้างหน้าให้สมบูรณ์ที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรรคจะเดินไปในทิศทางของการทำงานในรูปแบบใหม่ ก้าวทันยุคสมัยที่เปลี่ยนไป โดยจะมีทั้งคนรุ่นใหญ่ และคนรุ่นใหม่มาทำงานร่วมกัน และยืนยันว่าไม่ใช่การรีแบรนดิ้ง เพราะแบรนด์ของพรรครวมไทยสร้างชาติดีอยู่แล้ว 

สิ่งที่จะต้องทำต่อก็คือ การผสมผสานแนวคิดของทุกรุ่น โดยใช้เวลาที่มีต่อจากนี้ในการทำงาน เพราะที่ผ่านมามีเวลาน้อยในการเข้าสู่สนามเลือกตั้ง แต่หลังจากนี้จะได้เดินหน้าพัฒนาพรรครวมไทยสร้างชาติร่วมกันต่อไป โดยจะทำงานควบคู่กัน ทั้งเรื่องของนโยบาย และเน้นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพที่เรียกว่า การสื่อสารยุคใหม่ ที่จะใช้ความสามารถของคนรุ่นใหม่ของพรรคจำนวนมาก ที่มีความรู้ความสามารถหลากหลายด้าน และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความสามารถตามที่ถนัดอย่างเต็มที่ เชื่อว่าหากนำมาผสมผสานกับการทำงานของคนทุกรุ่นในพรรค จะยิ่งทำพรรครวมไทยสร้างชาติเข้มแข็งในทุกด้านอย่างแน่นอน

“ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมต่อสู้มาด้วยกัน และหลังจากนี้พรรคก็จะเดินหน้าต่อ เพื่อพัฒนาพรรคให้มีความเข้มแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ และเราเห็นในศักยภาพของคนรุ่นใหม่ที่ได้เลือกสรรมา เชื่อว่าทุกท่านจะสามารถมาร่วมกันเดินหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เป็นสถาบันทางการเมืองอย่างที่เราตั้งใจไว้ได้อย่างแน่นอน” นายเอกนัฏ กล่าว

"รทสช." ถอดบทเรียนเลือกตั้ง เดินหน้ามุ่งเป็นสถาบันการเมืองหลัก

logoline