แจกเงินดิจิทัลหมื่นบาทไม่ถึงขั้นยุบพรรค แต่เกิดยาก 

21 เมษายน 2566 นายเกียรติ สิทธีอมร คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวถึงกรณีที่เพื่อไทยชี้แจงนโยบายต่อกกต. ว่า ส่วนตัวยังคงมีข้อสงสัยถึงแหล่งที่มาที่ไปของเงินที่จะใช้ในนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท  ว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัลจริงหรือไม่ เพราะเพื่อไทยมีการเปลี่ยนเนื้อหาทุกวัน โดยแรกเริ่มแถลงว่า เป็นสกุลเงินจิทัล แต่หลังถูกตั้งคำถามก็เปลี่ยนเป็น ดิจิทัลวอลเล็ท ซึ่งเป็นคนละความหมาย และยังรวมถึงแหล่งที่มาของเงินที่จะใช้ยังเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่ชัดเจน

นายเกียรติ กล่าวว่าอีกว่า ทุกคนที่มีความรู้ด้านการคลัง จะทราบดีว่า การนำเงินงบประมาณมาใช้อย่างมากสุดที่ทำได้ภายใต้เงื่อนไขเศรษฐกิจที่โตขึ้น จะมีงบประมาณเพิ่มอยู่ไม่เกิน 2 แสนล้านบาท ดังนั้นถ้าจะทำภายในปีแรก หรือภายใน 6 เดือน จะต้องใช้เงินถึง 5 แสนล้านบาท  คำถามคือ จะเอาเงินมจากไหน จะสร้างหนี้เพิ่มหรือไม่ 

อีกประเด็นที่ตนยังย้ำคำถามเดิมคือ ทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ได้เงิน 10,000 บาททั้งหมดจริงหรือ  ซึ่งหมายความว่า เจ้าสัว หัวหน้าพรรค รวมถึงแคนดิเดตนายกฯของพรรคก็ต้องได้ด้วย  คำถามคือ  พรรคการเมืองออกนโยบายเพื่อให้เงินกับตัวเองมันถูกต้องแล้วหรือไม่ ไม่มีประเทศไหนยอมรับ

ดังนั้นวิธีการที่จะช่วยคนที่ต้องช่วย คือ ต้องให้เฉพาะกลุ่ม เฉพาะคนที่เดือดร้อน  แต่หากไปให้คนที่ไม่ควรช่วย เช่นนี้ถือว่าไม่เป็นธรรม  ประชาชนควรรู้ก่อนตัดสินใจ ที่ผ่านมาเราเคยเห็นมาแล้ว พรรคทำนโยบายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเอง ซึ่งส่วนตัวไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกเพราะอันตราย กับประเทศ

อย่างไรก็ตามเชื่อว่า นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะไม่ทำให้พรรคเพื่อไทยถึงขึ้นถูกยุบพรรค แต่ที่เห็นชัดคือ นโยบายดังกล่าวเกิดขึ้นได้ยาก เพราะหากเป็นสกุลเงินดิจิทัล ถือว่าขัดกับข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพราะยังไม่เคยอนุมัติให้ใช้เงินสกุลดิจิทัลในการชำระหนี้ ดังนั้นเชื่อว่านโยบายดังกล่าว ยังทำไม่ได้เพราะกฎหมายไม่เอื้อให้ทำ

แต่ถ้าเป็นกรณีดิจิทัลวอลเล็ท สามารถทำได้ เพราะแค่นำเงินใส่ในวอลเล็ทก็สามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้ทันที แต่ใครจะทำข้อมูลประชากร เพราะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลทั้งสิ้น  และใครจะรับผิดชอบเรื่องสิทธิข้อมูลส่วนบุคคล หากหน่วยงานราชการไม่สามารถทำได้ต้องจ้างให้เอกชนช่วยทำให้ ถ้าเป็นเช่นนั้น บริษัทเอกชนนั้นได้เปรียบทันที เพื่อไทยต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้  นโยบายที่ประกาศออกมาต้องชัดเจน ส่วนการตัดสินใจให้เป็นเรื่องของประชาชน